“กระทรวงพลังงาน” เตรียมข้อมูลเพื่อรายงานและรับนโยบายการดำเนินงานกับรัฐมนตรีคนใหม่พร้อมแล้ว โดยรวมถึงการประมูลนำเข้า LNG กฟผ. 1.5 ล้านตันที่ได้ผู้ชนะเรียบร้อยแล้ว
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงานได้เตรียมความพร้อมแผนการดำเนินงานต่างๆเพื่อเปลี่ยนผ่านในการนำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังานคนใหม่พิจารณา ซึ่งจะรวมถึงกรณีของการจัดหาและนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 1.5 ล้านตันที่ได้มีการเปิดประมูลและได้รายชื่อผู้ชนะประมูลว่าจะดำเนินการต่ออย่างไร
“ที่ผ่านมา กฟผ.ได้นำเข้าแอลเอ็นจีตามนโยบายของรัฐในการเปิดให้บุคคลที่ 3 เข้ามาแข่งขันซึ่ง กฟผ.ได้ดำเนินการนำร่องโดยมีการเปิดประมูลเรียบร้อยแล้ว คงจะต้องรอนโยบายจากรัฐมนตรีใหม่ที่สุดแล้วจะตัดสินใจเรื่องนี้อย่างไร ส่วนกรณีคำถามที่ว่าจะมีการล้มประมูลหรือไม่ ผมเองก็คงไม่รู้ อยู่ที่นโยบายรัฐ” นายกุลิศกล่าว
สำหรับการเตรียมพร้อมข้อมูลการดำเนินงานของกระทรวงพลังงานเพื่อเสนอรัฐมนตรีพลังงานคนใหม่รับทราบและมอบนโยบาย หลักๆได้แก่ การเปลี่ยนผ่านงานภายใต้ พ.ร.บ.น้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 ที่จะต้องมีการเปลี่ยนผ่านในช่วงระยะเวลา 180 วัน หรือภายใน 24 ก.ย. นี้ รวมไปถึงการจัดทำ 5 แผนพลังงาน ได้แก่ แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP2018) ที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบแล้ว และที่เหลือกำลังจัดทำแผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ (Gas Plan) แผนบริหารฯ น้ำมันเชื้อเพลิง (Oil Plan) แผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP) แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP)
“แผนพีดีพีคงเปลี่ยนไม่ได้เพราะได้ผ่าน ครม.แล้ว แต่หากจะปรับแนวทางรับซื้อไฟฟ้าให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐในรายละเอียดก็อาจจะทำได้ ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาลใหม่ โดยแผนพีดีพีจะต้องมีโรงไฟฟ้าน้ำพองปี 2568 ก็ต้องมาสรุปว่าจะใช้เชื้อเพลิงจากส่วนใด แต่ในส่วนของ บมจ.ราชกรุ๊ป ที่ได้สิทธิ์พัฒนาโรงไฟฟ้าภาคตะวันออก 2 โรงนั้นผ่านขั้นตอนเสร็จสิ้นแล้วคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง” นายกุลิศกล่าว
นอกจากนี้ยังจะมีการรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับกองทุนอนุรักษ์พลังงานที่มีการอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณประจำปี 2563 วงเงิน 1,200 ล้านบาทไปแล้ว โดยเตรียมที่จะเปิดให้มีการยื่นข้อเสนอโครงการขอเงินสนับสนุนกลางเดือน มิ.ย.-ก.ค.นี้จากนั้นคาดว่าจะประกาศรายชื่อผู้ได้รับการสนับสนุนภายใน ก.ย.เพื่อให้ทันเบิกจ่ายงบประมาณวันที่ 1 ต.ค. 62 ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นงบประมาณใหม่ รวมไปถึงแนวทางการส่งเสริมการใช้น้ำมันไบโอดีเซล การยกระดับมาตรฐานน้ำมันเป็นยูโร 5 เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ กฟผ.ได้เสนอการเปิดประมูลเพื่อจัดหา LNG โดยเลือกให้บริษัท ปิโตรนาส แอลเอ็นจี ประเทศมาเลเซีย เป็นผู้ชนะนำเข้าปริมาณ 1.2 ล้านตันต่อปี เป็นเวลา 8 ปี อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ไม่อนุมัติโดยมอบให้ กฟผ.ไปเจรจา ปตท.เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้ก็ต้องจ่ายเงิน (Take or pay)