xs
xsm
sm
md
lg

“ยูบิลลี่” ผนึก LOVE100 Diamonds จุดเด่นเพชร100 เหลี่ยมบุกตลาดไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ผู้จัดการรายวัน 360 – “ยูบิลลี่” ร่วมมือ LOVE100 Diamonds บุกตลาดเพชรพรีเมียมในไทย ชูจุดเด่น เพชรเจียระไนย 100 เหลี่ยม เดินเปิดสาขาแรกปีหน้า เผยกลยุทธ์รุกจากนี้เน้นการทำเซกเมนต์เตชั่น และการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าเป็นหลักผ่านกิจกรรม และผลิตภัณฑ์


นางสาวอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีหน้าบริษัทจะเปิดตัวเครื่องประดับเพชรแบรนด์ใหม่คือ แบรนด์ LOVE100 Diamonds ซึ่งจะเป็นการร่วมทุนกันระหว่าง ยููบิลลี่ และทางแบรนด์ดังกล่าว เพื่อรุกตลาดในไทย ซึ่งจับกลุ่มเป้าหมายระดับเพราะมีราคาเริ่มต้นมากกว่า 5 หมื่นบาท และมีราคาหกถึงเจ็ดหลัก ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถขยายกลุ่มลูกค้าได้เพิ่ม ตั้งแต่ระดับกลาง บน ถึงเอบวก เพราะกลุ่มที่กำลังการซื้อระดับล่างอาจจะยังมีผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจอยู่

แบรนด์ดังกล่าวนี้ จะแยกออกจากร้านยูบิลลี่ ด้วยการเปิดร้านใหม่โดยเฉพาะนำร่องเปิด 1 สาขาในปีหน้า ซึ่งจุดเด่นของLOVE100 Diamonds เป็นการเจียระไน 100 เหลี่ยม โดยฝีมือการเจียระไนของคนในตระกูลTolkowsky ที่มีความเชี่ยวชาญสืบทอดทักษะการเจียระไนจากรุ่นสู่รุ่นมายาวนาน ซึ่งบริษัทเคยร่วมมือกับทางแบรนด์นี้เมื่อปีี่แล้วเป็นการนำร่องทดสอบตลาดก่อนและได้รับการตอบรับดี และแบรนด์นี้ก็ต้องการที่จะขยายตลาดเอเชียมากขึ้นด้วย


สอดคล้องกับแนวทางรุกตลาดปีหน้าของบริษัทที่จะเน้นตลาดกลุ่มเป้าหมายระดักลางขึ้นบนมากขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อดีที่ไม่กระทบจากภาวะเศรษฐกิจเท่าใดนัก รวมถึงแนวทางการดำเนินการตลาดที่จะให้ความสำคัญกับการทำเซ็กเมนเตชั่นหรือกลุ่มเฉพาะมากขี้นด้วย เพื่อวิเคราะห์ว่ากลุ่มลูกค้าใดชอบกิจกรรมในลักษณะไหน เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพราะพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนอย่างวดเร็ว แม้ว่าบริษัทจะเป็นแบรนด์ที่นำเสนอสินค้าดี มีคุณภาพ เป็นแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือก็ตาม แต่ปัจจุบันการทำธุรกิจต้องเดินไปเหนือกว่าผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และเสริมเรื่องประสบการณ์ให้มากขึ้น
โดยกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทจะมีอายุ 25 ปีขึ้นไป และไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ในยุคนนี้จะมีการจับจ่ายเพิ่มมากขึ้น ก่อนหน้านี้การซื้อเพชรราคาหลักหมื่นผู้บริโภคอาจจะคิดหนัก แต่ตอนนี้เริ่มเข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีกำลังซื้อ

นางสาวอัญรัตน์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันนี้ในภาวะที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น แน่นอนว่าต้องส่งผลต่อเรื่องต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เพราะทองคำคือต้นทุนการผลิตมากถึง 20-25% อย่างไรก็ตาม บริษัทนำนำเอาเรื่องของนวัตกรรมนำหน้า เพื่อทำให้ราคาสามารถจับต้องได้ โดยโรงงานที่ผลิตสินค้าทำมาจากโรงงาที่ญี่ปุ่น ซึ่งมีเทคโนโลยีที่ดี อย่างไรก็ตามมองอีกมุมหนึ่ง การที่ราคาทองสูงขึ้นก็ย่อมส่งผลให้ภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์มีมูลค่าเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกันเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่า

ทั้งนี้ช่วงไตรมาส 3-4 ของปี 2568 บริษัทรุกหนักจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเข้าถึงลูกค้าที่เป็นฐานสมาชิก 2.2 แสนราย และลูกค้าใหม่ โดยสัดส่วนรายได้ยังคงมาจาก กรุงเทพกับต่างจังหวัดเท่ากัน ในปีนี้บริษัทยังเตรียมจัดงานเพื่อกระตุ้นยอดขายครั้งใหญ่ ด้วยการนำสินค้ามาลดสูงสุด 60% ตอบโจทย์ทุกกลุ่มผู้บริโภค ทั้งคนที่อยากหาซื้อเพชรแบบเม็ด คนที่อยากหาของขวัญในช่วงปลายปี หรือแม้แต่พนักงานที่ต้องการมีเครื่องประดับเพชร

นางสาวอัญรัตน์ กล่าวด้วยว่า การเปลี่ยนแปลงของตลาดลักชัวรีในปัจจุบันทำให้แบรนด์ต้องก้าวข้ามกรอบของ “สินค้า” ไปสู่ “ความหมาย” ที่ลูกค้าค้นหา “ผู้บริโภคกลุ่มลักซ์ชัวรี่ไม่ได้มองหาความหรูหราเพียงในระดับวัตถุ แต่เลือกสิ่งที่สะท้อนตัวตน ความหมาย และความใส่ใจในรายละเอียด ยูบิลลี่จึงพัฒนาประสบการณ์ การบริการ และงานออกแบบที่ประณีตเฉพาะบุคคล (Customization) มากขึ้น เพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและแบรนด์เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและลึกซึ้ง”

“พฤติกรรมผู้บริโภคยุคลักชัวรี 4.0 ไม่ได้เลือกแบรนด์จากสินค้าอย่างเดียว แต่เลือกจากประสบการณ์ทั้งหมดที่แบรนด์สร้างขึ้น เราจึงเดินหน้า Experience-Driven Growth เพื่อส่งมอบคุณค่าเหนือความคาดหมาย ตั้งแต่วินาทีแรกที่ลูกค้าสัมผัสแบรนด์ จนถึงทุกช่วงเวลาที่เป็น Precious Moments ของชีวิต”

กลุ่ม High Net Worth และกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูงยังคงให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับ “คุณภาพเหนือราคา”
“เมื่อสินค้าเครื่องประดับสามารถเติมเต็มอารมณ์และมีความหมายต่อช่วงเวลาสำคัญ คุณค่าที่แท้จริงจึงเกิดขึ้นตรงนั้น ซึ่งเป็นเหตุผลที่ยูบิลลี่ให้ความสำคัญกับงานฝีมือระดับเวิลด์คลาส ความใส่ใจเฉพาะบุคคล และมาตรฐานที่น่าเชื่อถือในฐานะแบรนด์เพชรอันดับหนึ่งที่อยู่คู่สังคมไทยมากว่า 96 ปี”

ยูบิลลี่ยังเสริมบทบาทความเป็นผู้นำผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์หลายด้าน ผลักดันประสบการณ์เหนือระดับ ผ่านพันธมิตรเชิงกลยุทธ์โดยมุ่งเน้นการสร้าง “Luxury Experience Ecosystem” ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำต่างๆ

หนึ่งในไฮไลท์คือการต่อยอดแคมเปญ “I Want a Hug” ผ่านความร่วมมือกับแบรนด์ระดับโลก POPMART นำคาแรกเตอร์ Sweet Bean มาถ่ายทอด ‘พลังแห่งอ้อมกอด’ สู่คอลเลกชันลิมิเต็ดเอดิชัน พร้อมเปิดตัว Pop-Up Experience ที่สยามพารากอน ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ สะท้อนศักยภาพของยูบิลลี่ในการเข้าถึงวัฒนธรรมร่วมสมัยและสร้างประสบการณ์ที่โดดเด่นเหนือความคาดหวัง

ความร่วมมือดังกล่าวยังถูกขยายสู่โครงการ CSR ภายใต้แนวคิด “ส่งต่ออ้อมกอดแห่งกำลังใจ” เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ แสดงถึงบทบาทของแบรนด์ที่ไม่เพียงสร้างสรรค์ความงาม แต่ยังยืนหยัดข้างสังคมในช่วงเวลาสำคัญ
ยูบิลลี่ยังร่วมมือกับศิริราชมูลนิธิ เปิดตัว “เข็มกลัดสิริภูษาอาลัย (Siri Pusa Alai)” เพื่อเชิดชูความงดงาม แห่งความจงรักภักดีและความกตัญญู รายได้จากการจำหน่ายมอบให้ศิริราชมูลนิธิ จะนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย โดยผลงานเข็มกลัด “สิริภูษาอาลัย” ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากพระราชกรณียกิจด้านงานหัตถศิลป์ไทยอันทรงคุณค่า โดยเฉพาะพระวิริยะอุตสาหะในการสืบสานและยกระดับผ้าไหมไทยสู่ความสง่างามในเวทีโลก ลวดลายบนตัวเรือนอ้างอิงจากผ้าไหมมัดหมี่ลายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน น้อมรำลึกถึงพระเมตตา พระปรีชาสามารถ และพระราชทานแรงบันดาลใจแก่คนไทยใน การอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทยให้คงอยู่สืบไป

อีกหนึ่งความร่วมมือที่ได้รับความสนใจ คือโปรแกรม “ของขวัญแห่งชีวิต” กับโรงพยาบาลสมิติเวช โดยยูบิลลี่ได้มอบจี้เพชร Year of the Horse ให้คุณแม่ที่คลอดบุตร พร้อมเทคโนโลยี Jubilee iMoment เพื่อเก็บบันทึกความทรงจำอันล้ำค่าของครอบครัว สะท้อนวิสัยทัศน์ของแบรนด์ที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของทุก Precious Moment ในชีวิตลูกค้า

ด้านกลยุทธ์การบริหารลูกค้า นางสาวอัญรัตน์ เน้นย้ำถึงความสำคัญของ “ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า (Customer Insights)” ว่าเป็นหัวใจของการพัฒนาประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคล “การเข้าใจความต้องการและแรงบันดาลใจของลูกค้า ทำให้เราสามารถออกแบบและพัฒนา บริการ สินค้า และแคมเปญที่ตอบโจทย์ได้อย่างแท้จริง นี่คือพลังที่ทำให้ยูบิลลี่สามารถเชื่อมโยงกับช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของลูกค้าได้อย่างมีความหมาย” โจทย์สำคัญในอุตสาหกรรมลักชัวรีวันนี้ว่า “ความท้าทายไม่ใช่การแข่งขันด้านราคา แต่คือการสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง (Brand Affinity) และความไว้วางใจระยะยาว เราเชื่อว่าความจริงใจ ความละเอียดอ่อนในบริการ และคุณภาพที่ไม่ประนีประนอม คือเหตุผลที่ลูกค้ากลับมาหายูบิลลี่เสมอเมื่อถึงช่วงเวลาที่สำคัญในชีวิต”

สำหรับฐานลูกค้ารุ่นใหม่เป็นกลุ่มที่เติบโตเร็วและมีความคาดหวังเฉพาะบุคคลสูง “ลูกค้ารุ่นใหม่และกลุ่มผู้มีฐานะรุ่นใหม่ต้องการสินค้าที่สะท้อนตัวตน มีความหมาย และสามารถปรับแต่งได้ ยูบิลลี่จึงลงทุนในประสบการณ์ดิจิทัลที่ลื่นไหล การสื่อสารที่จริงใจ และบริการเฉพาะบุคคลเพื่อสร้างความผูกพัน เราปรับให้ทันทุกยุค แต่ยังคงยึดมั่นในแก่นของแบรนด์ ได้แก่ Excellence, Legacy และ Trust เพื่อส่งต่อคุณค่าอย่างแท้จริงจากรุ่นสู่รุ่น”
ยูบิลลี่ยังคงเดินหน้าเข้าสู่ปี 2569 ด้วยกลยุทธ์ที่ผสานความคิดร่วมสมัย ความร่วมมือระดับประเทศ การส่งมอบประสบการณ์ลักชัวรีที่มีความหมาย และบทบาทที่ชัดเจนด้านสังคม เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมเครื่องประดับเพชรไทย และยืนยันความเป็นแบรนด์ที่อยู่ในทุกช่วงเวลาสำคัญของผู้บริโภค
กำลังโหลดความคิดเห็น