“พิพัฒน์” หารือ ผู้แทนธนาคารโลก ช่วยเหลือการเงิน ก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลาและสะพานเชื่อมเกาะลันตา รวมถึง โครงการอนุรักษ์โลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลา ก่อนเดินหน้าตอกเข็ม พร้อมเจรจาดึงร่วมศึกษาพัฒนาพื้นที่รอบ”สถานีบางซื่อ-แลนด์บริดจ์-มอเตอร์เวย์”
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้การต้อนรับ Mr. Carlos Felipe Jaramillo (นายคาร์ลอส เฟลิเป้ ฮารามิโย) รองประธานประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกของธนาคารโลก (World Bank) และคณะ ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาเงินกู้ภายใต้โครงการการเชื่อมโยงคมนาคมของไทยเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงและการอนุรักษ์โลมาอิรวดี (Thailand Resilient Transport Connectivity and Irrawaddy Dolphin Conservative Project: TRIP) รวมถึงหารือในความเป็นไปได้ในการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการและเงินกู้ในโครงการอื่น ๆ ของกระทรวงคมนาคม
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมขอขอบคุณ World Bank ในความร่วมมือและความช่วยเหลือด้านการเงินในโครงการ TRIP ประกอบด้วย 1. โครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา (จังหวัดสงขลา - พัทลุง) 2. โครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมเกาะลันตา (จังหวัดกระบี่) ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมทางหลวงชนบท โดยโครงการดังกล่าวจะช่วยลดระยะเวลาเดินทาง เพิ่มความปลอดภัย และกระตุ้นเศรษฐกิจของพื้นที่ภาคใต้ของไทยให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด และ 3. โครงการอนุรักษ์โลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลา โดยประเทศไทยได้ใช้แหล่งเงินกู้จาก World Bank เพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวเป็นจำนวนเงินกว่า 141.51 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แบ่งเป็น เงินกู้จากกองทุน International Bank for Reconstruction and Development (IBRD) 137.51 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และเงินให้เปล่าจากกองทุน PROBLUE 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
@ดึง“เวิลด์แบงก์”ร่วมศึกษาพัฒนาพื้นที่รอบ”สถานีบางซื่อ-แลนด์บริดจ์-มอเตอร์เวย์”
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ธนาคารโลกเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการเพิ่มศักยภาพและพัฒนา การคมนาคมขนส่งของไทย จึงขอเชิญชวนให้ธนาคารโลกจัดส่งผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้คำปรึกษาและร่วมศึกษาในเรื่องการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีบางซื่อ ซึ่งมีพื้นที่กว่า 2 พันไร่ ร่วมศึกษาความคุ้มค่าในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมโยงการขนส่งทางน้ำระหว่างอ่าวไทย (ท่าเรือชุมพร) และอันดามัน (ท่าเรือระนอง) หรือโครงการแลนด์บริดจ์ (Land Bridge) รวมถึงการสร้างนิคมอุตสาหกรรมต่อเนื่องทั้ง 2 ฝั่งทะเล นอกจากนี้ ยังได้เชิญชวนให้ธนาคารโลกจัดส่งผู้เชี่ยวชาญร่วมพูดคุยและให้คำปรึกษาในโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษ หรือมอเตอร์เวย์ของกรมทางหลวง 2 เส้นทาง คือ ทางหลวงพิเศษหมายเลข 61 (M61) แหลมฉบัง - นครราชสีมา และทางหลวงพิเศษหมายเลข 84 (M84) ซึ่งเป็นทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายรองในจังหวัดสงขลา ที่มีเป้าหมายเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางจากอำเภอหาดใหญ่ไปยังชายแดนไทย - มาเลเซีย ที่อำเภอสะเดา เพื่อลดความแออัดบนถนนเพชรเกษม โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย โครงการปรับปรุงพื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้าชานเมืองกรุงเทพฯ และโครงการศึกษาการเก็บเงินรถเข้ากรุงเทพฯ หรือ “ค่าธรรมเนียมรถติด”
“ขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและช่วยผลักดันให้การเจรจาเงินกู้ของโครงการภายใต้กระทรวงคมนาคมมีความคืบหน้าและบรรลุผลเป็นอย่างดี ทั้งนี้ เชื่อว่าการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบคมนาคมของประเทศไทย กระทรวงคมนาคมพร้อมที่จะสานต่อความร่วมมือกับธนาคารโลกอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดำเนินโครงการต่าง ๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศและประชาชน” นายพิพัฒน์ กล่าว
โดยในการหารือมี นายรัชพงศ์ ชูแก้ว เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายปัญญา ชูพานิช รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) นายพิชิต หุ่นศิริ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) นายจิรโรจน์ ศุกลรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) นายถนอม รัตนเศรษฐ ผู้ช่วยผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ นางสาวภรชนัน มุ่งการดี ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม เข้าร่วม