xs
xsm
sm
md
lg

แฉเล่ห์ “ท๊อป จิรายุส” ปัดสวะพ้นตัว ไร้เงานั่งกรรมการ “บิทคับ” ไม่ต้องรับผิดทางกม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



แฉเล่ห์ “ท๊อป จิรายุส” ปัดสวะพ้นตัว ไม่รับตำแหน่งกรรมการบริษัทในกลุ่มบิทคับ แต่อาศัยฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่งคุมเบ็ดเสร็จ เดินสายลุยโปรโมตสร้างภาพลักษณ์ทั้งในและต่างประเทศ หวังไม่ต้องรับผิดทางกฎหมายและหลบเลี่ยงการกล่าวโทษจาก ก.ล.ต. โดยปล่อยให้ผู้ถือหุ้นรายอื่นและผู้บริหารแบกรับแทน พร้อมจับตาใครจะเป็นเหยื่อรายต่อไป เหตุยังมีอีกหลายกรณีที่ ก.ล.ต. กำลังไล่ตรวจสอบอยู่ ขณะที่ ก.ล.ต.เฮียริ่งคุมเข้มรายย่อยเทรดคริปโตฯ ขั้นต่ำเริ่ม 5,000 บาท กระทบวอลุ่ม “บิทคับ” แน่ จากแคมเปญ 10 บาทก็รวยได้ หลังมอมเมาชาวบ้าน และเยาวชนที่ไม่ได้ศึกษาข้อมูลเพียงพอมาพักใหญ่

ขณะที่ความวุ่นวายกำลังถาโถม “กลุ่มบิทคับ” หลังหาญกล้าท้าทายผู้ควบคุม (regulator) อย่างคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จนนำไปสู่คำสั่งและบทลงโทษต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นแน่ชัดคือการเดินหน้านำเสนอความแปลกใหม่ของโลกการลงทุนอย่าง “บิทคับ” ต่อหน้าสาธารณชนที่ไม่หยุดนิ่งผ่านผู้เปรียบเป็นดัง Brand Ambassador ขององค์กรอย่าง “จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา” หรือ “ท๊อป” ผู้ก่อตั้งและเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ทุกวันนี้ยังเดินไปร่วมงานบนเวทีต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอมุมมองความคิด และความแปลกใหม่ที่ทุกคนจะได้รับจาก “บิทคับ” โดยไม่แยแสที่จะหันกลับมาพิจารณาปรับปรุงองค์กรเพื่อลดทอนปัญหาและข้อขัดแย้งต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้น

แปลก “ท๊อป” ไม่เคยโดน ก.ล.ต. กล่าวโทษ

ถือเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจไม่น้อย เมื่อผู้บริหาร “บิทคับ” หลายต่อหลายคนโดนกล่าวโทษจากก.ล.ต. และต้องทยอยรับบทลงโทษแบบต่างกรรมต่างวาระกันไป แต่เรื่องเหล่านี้กลับไม่เคยปรากฏหรือสามารถกล้ำกลาย “ท๊อป จิรายุส”ได้เลย ทั้งที่เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของกลุ่ม ซึ่งน่าจะมีบทบาทและวิชั่นต่อการบริหารงานใน “บิทคับ” ในระดับที่เรียกได้ว่า “มีน้ำหนัก”

จากการสำรวจกลุ่มบิทคับ ทั้งหมด “ท๊อป” เป็นเพียงผู้ถือหุ้นใหญ่ ในบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ถือหุ้นจำนวน 1,917,734 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนทั้งหมด 25.86% ทำหน้าที่ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เท่านั้น แต่ไม่ปรากฎรายชื่อเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม เพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายทั้งในบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด และในบริษัทในกลุ่มที่เหลืออีก 5 บริษัท

ขณะเดียวกันทุกวันนี้ หากไล่เรียงรายชื่อกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรก ใน บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด นอกเหนือจาก “ท๊อป จิรายุส” ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุด ปรากฏว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ในลำดับถัดมา 2-3 คน ถูก ก.ล.ต.ลงโทษทั้งในรูปแบบเปรียบเทียบปรับ และสั่งห้ามเป็นคณะกรรมการของบริษัทแล้ว จากความผิดในรูปแบบต่างๆ

ดื้อแพ่งจนพลาดโอกาสขึ้นยานแม่

นั่นทำให้หลายฝ่ายต่างตั้งถามว่า “แล้วแบบนี้บิทคับจะแข็งแกร่งได้อย่างไร เมื่อการดำเนินงานในหลายขั้นตอนเป็นการกระทำผิดต่อกฏระเบียบที่ใช้ควบคุมอยู่ แม้บางอย่างจะมีการปรับปรุงแก้ไขแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่บิทคับยังดื้อแพ่งไม่ปรับปรุง พร้อมยืนยันมาตรฐานที่ตนนึกเองสร้างเอง” จนทำให้หลายต่อหลายคนเชื่อว่าเพราะพฤติกรรมเหล่านี้ถึงทำให้ “บิทคับ” พลาดการก้าวขึ้นเป็น “ยูนิคอร์น” หลังกลุ่มไทยพาณิชย์ (เอสซีบี เอกซ์) ประกาศยุติแผนทุ่มเงินบ้าคลั่ง 1.85 หมื่นล้านเพื่อเข้าซื้อหุ้น 51% ใน “บิทคับ ออนไลน์”

แต่สิ่งที่คนทั่วไปได้รับรู้หลังจาก “บิทคับ” วืดตั๋วขึ้นยานแม่ของ “เอสซีบี เอกซ์” คือการออกมาวาดฝันใหม่ๆที่ล่องลอยของผู้ก่อตั้งอย่าง “ท๊อป จิรายุส” ที่ออกมาแก้เก้อกับการถูกล้มดีลว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการตัดสินใจที่ตกลงร่วมกันของผู้บริหารทั้งสองฝ่าย ที่ได้พิจารณาอย่างที่ถ้วนอย่างรอบด้านและเห็นตรงกันว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ และมองว่าทุกวิกฤติ คือ โอกาส

“ผมไม่ได้มองบิทคับเป็นเพียงแค่ยูนิคอร์น แต่มองเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ ที่ไม่ได้แตกต่างจากตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือธนาคาร หรือทางด่วนที่ประชาชนต้องใช้ แต่บิทคับเป็นทางด่วนบนโลกดิจิทัล เพราะเวลานี้โลกได้ก้าวไปสู่ยุคดิจิทัลเรียบร้อยแล้ว ถ้าใครก้าวไม่ทัน ก็จะไม่มีโอกาสอีกต่อไป” นั่นเพราะ “ท๊อป จิรายุส” เชื่อว่า “บิทคับ” กำลังเข้าสู่ยุคที่ 3 ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องเปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนวิธีบริหาร เปลี่ยนวิธีตัดสินใจ และองค์กรต้องไปต่อได้ หากผู้ก่อตั้ง หรือผู้บริหารไม่อยู่แล้ว จากเดิมทุกอย่างต้องให้ผุ้บริหารมาตัดสินใจ เพื่อป้องกันการผิดพลาด แต่ถ้ายุคนี้ผู้บริหารมานั่งตัดสินใจเรื่อย ๆ อาจทำให้บริษัทจะโตช้าเกินไป


หรือเป็นกลยุทธ์หลบเลี่ยง ก.ล.ต.

อย่างไรก็ตาม เริ่มมีหลายคนมองว่านี่อาจเป็นเล่ห์กลของ “ท๊อป จิรายุส” ที่กำหนดตัวเองออกไปจากกรอบหรือกระแสกดดัน โดยรับบทบาทเพียงเป็นทูตสันถวไมตรีขององค์กร เพื่อตระเวณเดินสายนำเสนอความแปลกใหม่ของโลกลงทุน ตามเป้าหมายเชิญชวนผู้คนและเม็ดเงินไหลเข้ามาสู่ “บิทคับ” โดยไร้ซึ่งความเสี่ยงต่อการถูกกล่าวโทษ หรือลงโทษจากผู้ควบคุม (Regulator) อย่างก.ล.ต. หรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพราะนั่นย่อมทำให้ภาพของ “บิทคับ” ยังเป็นที่น่าสนใจในสายตาของประชาชนทั่วไป หรือผู้ที่ต้องการลงทุนเพื่อรับผลประโยชน์ในระดับสูงอยู่เสมอ เพราะแม้ ก.ล.ต.จะพิพากษาหรือลงโทษผู้บริหาร “กลุ่มบิทคับ” รายอื่นๆจากการกระทำผิดใดๆก็แล้วแต่ แต่ “ท๊อป จิรายุส” เพื่อเปรียบเสมือนตัวแทนของ “บิทคับ” ก็ไม่ได้รับกระทบตามไปด้วย

“การกล่าวโทษ หรือลงโทษไม่ว่าจะเปรียบเทียบปรับ หรือคำสั่งลงโทษต่างๆ ของก.ล.ต. แม้จะมีออกมาอย่างต่อเนื่องจากการฝ่าฝืน การจงใจกระทำผิดกฎ ระเบียบ หรือข้อกำหนด ก็จะเกิดขึ้นแต่กับผู้บริหาร หรือผู้ถือหุ้นใหญ่รายอื่นๆ ของบิทคับเท่านั้น เพราะเมื่อเกิดการลงโทษขึ้น แม้จะมีผลกระทบกับบิทคับบ้าง แต่ก็จะไม่มีผลกระทบมากเท่าการเกิดขึ้นกับท๊อป จิรายุส เพราะหากมีการกล่าวโทษ หรือลงโทษกับท๊อป จิรายุสเกิดขึ้นจริง จะมีผลหรืออิมแพ็คกับ บิทคับ ทั้งตลาดค้าเหรียญ และตัวเหรียญของบริษัทอย่างหนักแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าการดิ่งลงของธุรกิจบิทคับทั้งตลาดเหรียญ และตัวเหรียญยังมีกระแสนิยมและเชื่อมั่นในตัว "ท๊อป จิรายุส" มาช่วยพยุงเอาไว้…….....แต่ถ้าอนาคต กลายเป็น "ท๊อป จิรายุส" เป็นผู้ถูกกล่าวโทษหรือถูกลงโทษเอง ความน่าเชื่อถือต่อบิทคับ และเหรียญจะทรุดหนักทันที เพราะตัวท๊อป ก็เปรียบเหมือนเป็น “บิทคับ” ดังนั้นเวลา “ท๊อป” จะไปไหนมาไหน ก็เหมือนเป็น “บิทคับ” ที่เคลื่อนที่ได้กำลังไปทำการตลาดอยู่เสมอ เมื่อตัวทำการตลาดมีความผิดแล้วจะเหลือใครที่จะเชื่อถือ

ดังนั้นเชื่อว่าน่าจะเป็นที่เชื่อว่ามีการพูดคุยกันในกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารของกลุ่มบิทคับ ที่ได้ข้อสรุปว่าจงใจปล่อยให้ “ท๊อป” ลอยอยู่กลางอากาศ เพื่อป้องกันปัญหาหรือความเสี่ยงใหญ่ที่อาจเกิดขึ้น และผู้บริหาร หรือผู้ถือหุ้นคนอื่น ก็พร้อมที่จะถูกกล่าวโทษ หรือถูกลงโทษ สำหรับแผนงานที่บิทคับจงใจฝ่าฝืน ลองคิด 1-2 ปีที่ผ่านมา “กลุ่มบิทคับ” ถูกปรับรวมกันไปมากเท่าไร แค่นับตั้งแต่ พ.ย. 2564 ถึงปัจจุบันก็ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท แต่การเปรียบโทษปรับเหล่านี้ก็ไม่ได้ทำให้ “บิทคับ” หันมาให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ข้อกำหนด นั่นอาจเป็นเพราะค่าปรับที่เสียไปมันอาจคุ้มค่ากับกำไร หรือเม็ดเงินที่ผู้ถือหุ้น หรือผู้บริหาร หรือบิทคับกำลังกอบโกยเข้ามา”

และยังคงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า ผู้ถือหุ้นหรือผู้บริหารบิทคับคนใดจะเป็นเหยื่อรายต่อไป เพราะที่ผ่านมายังมีกรณีที่ ก.ล.ต. เข้าไปตรวจสอบอยู่หลายกรณี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปั่นราคาเหรียญ KUB หรือการดื้อแพ่งไม่แก้ไขคุณสมบัติเหรียญตามคำสั่งของ ก.ล.ต. และอื่นๆ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการทยอยประกาศผลของการตรวจสอบและลงโทษออกในเร็วๆ นี้

บรรยายภาพ : ท๊อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 25.86% ในบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ยังคงเดินสายโปรโมตประชาสัมพันธ์ และพบปะบุคคลที่มีชื่อเสียง เพื่อสร้างภาพลักษณ์อย่างต่อเนื่อง ขณะที่เจ้าตัวเองกลับหลีกเลี่ยงการดำรงตำแหน่งกรรมการผู้มีอำนาจในกลุ่มบิทคับ เพื่อหลีกเลี่ยงการลงโทษจากสำนักงาน ก.ล.ต.
โครงสร้างบิทคับ “ท๊อป”แค่ผู้ถือหุ้นใหญ่

สำหรับภาพรวมโครงสร้างองค์กร “กลุ่มบิทคับ” สามารถแจกแจงได้ดังนี้ จากการสำรวจข้อมูลจากกรมทะเบียนการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า “กลุ่มบิทคับ” ประกอบด้วย 1.บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด จดทะเบียน 5 ก.พ. 61 ทุนจดทะเบียน 74,513,380 บาท โดยมีรายชื่อคณะกรรมการประกอบด้วย นายทวีทรัพย์ ราวรรณ์ นายอรรถกฤต ชิมผลาพิบูลย์ นายนิธิวัฒน์ มณีสินธุ์ นายสุกฤษฏิ์ พุทธวิริยะ และกรรมการลงชื่อผูกพัน กรรมการสองคนลงลายมือชื่อร่วมกัน และประทับตราสำคัญของบริษัท

ล่าสุดในปี 2564 มีสินทรัพย์รวม 2,528,251,545 บาทหนี้สินรวม 29,975,503 บาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 2,498,276,042 บาท รายได้รวม 2,308,379,240 บาท และกำไรสุทธิ 2,180,116,445 บาท

โดยรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรก ได้แก่ 1."จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา" สัดส่วน 25.86% อันดับ 2. “สกลกรย์ สระกวี” สัดส่วน 9.99% อันดับ 3. “ โสพิศ ภูสนาคม” สัดส่วน 7.14% อันดับ 4. “อรรถกฤต ชิมผลาพิบูลย์” สัดส่วน 6.31% อันดับ 5. “ทวีทรัพย์ ราวรรณ์” สัดส่วน 4.32% อันดับ 6. “นิธิวัฒน์ มณีสินธุ์” สัดส่วน 4.32% อันดับ 7. “เฉียน ฉวูจวิน” สัดส่วน 4.32% อันดับ 8. “เอกชัย พลเพชร” สัดส่วน 4.32% อันดับ9. “พรรษกร เชนตระกูล” สัดส่วน 4.00% และอันดับ 10. “อธิปชนา ธนาจิรวณิช” สัดส่วน 3.00%

ส่วนบริษัทในเครือบิทคับอีก 5 บริษัท ซึ่งมี บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 99.99% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ได้แก่

1. บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด มี “สกลกรย์ สระกวี” เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งโดนถูก ก.ล.ต. กล่าวโทษ และห้ามเป็นกรรมการและผู้บริหารเป็นเวลา 12 เดือนก่อนหน้านี้ และมี “อรรถกฤต ชิมผลาพิบูลย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ที่ดูแลธุรกิจส่วนตลาดซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัล จดทะเบียน 29 ก.ค. 59 ทุนจดทะเบียน 450,000,000 บาท

โดยรายชื่อคณะกรรมการ ประกอบด้วย “ทวีทรัพย์ ราวรรณ์” และ “นิธิวัฒน์ มณีสินธุ์” เป็นกรรมการลงชื่อผูกพัน กรรมการสองคนลงลายมือชื่อร่วมกัน และประทับตราสำคัญของบริษัท

2. บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จํากัด ในฐานะผู้พัฒนาระบบบล็อกเชน Bitkub Chain และเหรียญ Bitkub Coin (KUB) มี “ภาสกร ปานนอก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร , “อธิชนัน พูลเกษ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม และ “สำเร็จ วจนะเสถียร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านเทคโนโลยี ซึ่งล่าสุดถูก ก.ล.ต. กล่าวโทษใช้ข้อมูลอินไซด์ซื้อขาย KUB) โดยจดทะเบียน 28 ก.พ. 61 ทุนจดทะเบียน 778,000,000 บาท และมีรายชื่อคณะกรรมการ คือ “ภาสกร ปานนอก” , “ธนเสฏฐ์ เสนีวงศ์” โดยมี “ภาสกร ปานนอก” เป็นกรรมการลงชื่อผูกพัน ลงลายมือชื่อ และประทับตราสำคัญของบริษัท

3. บริษัท บิทคับ แล็บส์ จํากัด มี นายสุกฤษฏิ์ พุทธวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แล็บส์ จำกัด จดทะเบียน 9 มี.ค. 63 ทุนจดทะเบียน 25,000,000 บาท โดยมีรายชื่อคณะกรรมการ “สกลกรย์ สระกวี” , “ทวีทรัพย์ ราวรรณ์” และ “สุกฤษฏิ์ พุทธวิริยะ” ขณะที่กรรมการลงชื่อผูกพันคือ “สกลกรย์ สระกวี” ลงลายมือชื่อร่วมกับ “ทวีทรัพย์ ราวรรณ์” หรือ “สุกฤษฏิ์ พุทธวิริยะ” รวมเป็นสองคน และประทับตราสำคัญของบริษัท

4. บริษัท บิทคับ เวนเจอร์ส จํากัด มี “เนาวรัตน์ ธรรมสวยดี” เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จดทะเบียน 24 ส.ค. 63 ทุนจดทะเบียน 30,000,000 บาท โดยมีรายชื่อคณะกรรมการคือ “ภาสกร ปานนอก” , “เนาวรัตน์ ธรรมสวยดี” และ “สุกฤษฏิ์ พุทธวิริยะ” ส่วนกรรมการลงชื่อผูกพัน คือ “ภาสกร ปานนอก” ลงลายมือชื่อร่วมกับ “เนาวรัตน์ ธรรมสวยดี” หรือ “สุกฤษฏิ์ พุทธวิริยะ” รวมเป็นสองคน และประทับตราสำคัญของบริษัท

5. บริษัท บิทคับ อินฟินิตี จํากัด มี “​​พีระสิทธิ์ จิวะพงศ์” ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จดทะเบียน 29 พ.ย. 64 ทุนจดทะเบียน 50,000,000 บาท โดยมีรายชื่อคณะกรรมการคือ “พีระสิทธิ์ จิวะพงศ์” “บุญญานพ สัตยานนท์” “โชติกา สาวนายน” และ “วิศิษฎ์ ยินดีสิริวงศ์” ส่วนกรรมการลงชื่อผูกพันคือ “วิศิษฎ์ ยินดีสิริวงศ์” ลงลายมือชื่อร่วมกับ “พีระสิทธิ์ จิวะพงศ์” หรือ “บุญญานพ สัตยานนท์” หรือ “โชติกา สาวนายน” รวมเป็นสองคน และประทับตราสำคัญของบริษัท


2 ผู้บริหารใหญ่ที่เพิ่งถูกกล่าวโทษ

สำหรับผู้บริหารหรือผู้ถือหุ้นใหญ่ของ “บิทคับ” ที่ถูกกล่าวโทษจาก ก.ล.ต.คือ “สำเร็จ วจนะเสถียร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด (14 ก.ย.) โดยล่าสุด นายสำเร็จ ตกลงยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งตามที่คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่งกำหนด ด้วยการชดใช้ผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำความผิด 3,748,544.01 บาท พร้อมกับชำระค่าปรับทางแพ่ง 4,310,825.61 บาท

นอกจากนี้ยังถูกห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของผู้เสนอขายโทเคนดิจิทัลและผู้ประกอบการสินทรัพย์ดิจิทัล ตั้งแต่ 14 ก.ย.65 ถึง 13 ก.ย. 66 และ ชดใช้ค่าใช้จ่ายของสำนักงานในการตรวจสอบ 471,013.38 บาท

แม้ว่าก่อนหน้า นายสำเร็จ จะได้ออกมาชี้แจงว่า ตนเองรู้เรื่องกฎหมายอินไซด์ดี ไม่ได้ทำผิด ยืนยันจะสู้ตามกระบวนการทางกฎหมาย ก่อนจะออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อเพิ่มเติมว่า การยอมเสียค่าปรับก็ไม่ใช่เป็นการยอมรับผิด แต่เพื่อประนีประนอมเท่านั้น

ทั้งนี้ ก.ล.ต. กล่าวโทษ นายสำเร็จ ได้ซื้อโทเคนดิจิทัล Bitkub Coin (เหรียญ KUB) จำนวนมากระหว่างวันที่ 4 ก.ย. - 2 พ.ย. 64 โดยรู้หรือครอบครองข้อมูลภายในกรณีบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด จะเข้าทำสัญญาซื้อหุ้นร้อยละ 51 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (BO) จากบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด มูลค่า 17,850 ล้านบาท ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่ข้อมูลภายในดังกล่าวจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะโดยธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 2 พ.ย. 64

ขณะที่ก่อนหน้า “สกลกรย์ สระกวี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด โดนเรื่อง ร่วมกับนายอนุรักษ์ เชื้อชัย (Market Maker) และบิทคับ ปั่นเหรียญ สร้างราคาเทียม โดนปรับรวมกว่า 24 ล้านบาท และห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและเป็นกรรมการ หรือผู้บริหารธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นเวลา 12 เดือนด้วย

ขณะเดียวกัน คณะกรรมการเปรียบเทียบ ก.ล.ต. มีคำสั่งปรับบริษัท บิทคับ ออนไลน์ (BO) และกรรมการ 5 คน ในคณะกรรมการคัดเลือกสินทรัพย์ดิจิทัลของ BO ในกรณีที่คัดเลือก Bitkub Coin (KUB) เข้าซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกและเพิกถอนสินทรัพย์ดิจิทัล (Listing Rule) ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. และไม่ได้คำนึงถึงมาตรการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (COI)

โดยลงโทษปรับ “นิธิวัฒน์ มณีสินธุ์” , “สุกฤษฏิ์ พุทธวิริยะ”, “ปิยพงษ์ โคตรชนะ”, “พงศกร สุตันตยาวลี” และ “อรรถกฤต ชิมผลาพิบูลย์” ในฐานะกรรมการในคณะกรรมการคัดเลือกสินทรัพย์ดิจิทัลของ BO รายละ 2,533,500 บาท และบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด อีก 2,533,500 บาท รวมกว่า 15.20 ล้านบาท


เฮียริ่งเริ่ม 5,000.-จ่อทุบเกมส์บิทคับปั้นรายได้

แต่ประเด็นใหม่ที่น่าสนใจสำหรับ ก.ล.ต. และผู้บริหาร “บิทคับ” ณ เวลานี้ คือ ที่ประชุมคณะกรรมการก.ล.ต.ครั้งที่ 12/2565 เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีมติมติเห็นชอบการปรับปรุงแนวทางการเปิดเผยความเสี่ยงจากการซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี และการกำหนดมูลค่าขั้นต่ำการซื้อสินทรัพย์ดิจิทัล

สำหรับวัตถุประสงค์ของการปรับปรุงหลักเกณฑ์แนวทางการเปิดเผยความเสี่ยงจากการซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี และการกำหนดมูลค่าขั้นต่ำการซื้อสินทรัพย์ดิจิทัล ดังกล่าวครั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ซื้อขายจะมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การลงทุนและการบริหารความเสี่ยงจากการลงทุน และสามารถรับความเสี่ยงได้ในระดับที่เหมาะสม สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์ รวมถึงได้รับข้อมูลประกอบการตัดสินใจอย่างเพียงพอ

ส่วนสาระสำคัญของการปรับปรุงหลักเกณฑ์ ประกอบด้วย 1.ผู้ประกอบธุรกิจประเภทศูนย์ซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี นายหน้าซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี และผู้ค้าคริปโตเคอร์เรนซี จะต้องเปิดเผยคำเตือนความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุน โดยกำหนดให้มีข้อความดังนี้ "คริปโตเคอร์เรนซีไม่ได้มีการกำกับดูแลการออกและเสนอขายตามกฎหมายของประเทศไทย และมีราคาผันผวนสูงโดยอาจไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ ท่านอาจสูญเสียเงินของท่านทั้งจำนวน" ทั้งนี้ ข้อความคำเตือนดังกล่าวต้องสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน มีความคมชัด และให้พิจารณาเลือกใช้โทนสีที่มีความแตกต่างจากสีพื้นหลังหรือใช้ตัวอักษรหนา

2.ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ประเภทศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล จะต้องกำหนดมูลค่าการซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลต่อธุรกรรมขั้นต่ำ 5,000 บาท ยกเว้น โทเคนดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตให้เสนอขายตาม พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลฯ เช่น โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (investment token) เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม จากการเปิดรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ของ ก.ล.ต. ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่า หากเกิดขึ้นจริงน่าจะมีผลกับแผนการตลาดของ “บิทคับ” ซึ่งทุกวันนี้กำลังโฆษณาดึงดูดนักลงทุนหน้าใหม่ว่า “แค่เงินเพียงน้อยนิดเพียง 10 บาทก็สามารถลงทุนได้” น่าจะต้องเจออุปสรรคชิ้นใหญ่ต่อการทำการตลาดในอนาคต เพราะหากการเริ่มลงทุนในคริปดตเคอร์เรนซี่ต้องใช้เงินลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาทจริง ย่อมส่งผลให้ผู้มีทุนน้อยจำเป็นต้องชะลอการลงทุนออกไป 

แม้จะดูเหมือนเป็นการกีดกันไม่ให้ประชาชนเข้าถึงโอกาสหรือความสำเร็จ แต่ต้องไม่ลืมว่าสิ่งที่ ก.ล.ต.ต้องการนำเสนอนั่นคือ อยากให้นักลงทุนมีการศึกษาหาความรู้การลงทุนให้เพียงพอก่อนเข้าลงทุน โดยเฉพาะเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งปัจจุบันนี้แม้จะมีกระแสการตอบรับจากนักลงทุนมากขึ้น แต่สินทรัพย์ดังกล่าวก็มีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน นั่นทำให้ ก.ล.ต.มีความกังวลว่าการรับรู้ข้อมูบที่ไม่เพียงพอ ย่อมทำให้ผู้ลงทุนมุ่งแสวงผลเพียงแค่การเก็งกำไรเพียงอย่างเดียว จนอาจนำไปสู่ความเสียหายจากการลงทุนในวงกว้าง

ขณะเดียวกันกลุ่มที่เข้ามาลงทุนด้วยเงินลงทุนที่น้อยส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มนักเรียนและนักศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นที่ได้รับมาจากผู้ปกครอง และยังขาดความรู้ความเข้าใจในการลงทุนคริปโตเคอร์เรนซี่ได้ดีพอ ดังนั้นการชะลอเข้าลงทุนเพื่อกลับไปศึกษาข้อดีข้อเสียของสินทรัพย์เหล่านี้ น่าจะเป็นประโยชน์ให้คนรุ่นใหม่เอง มากว่าการสกัดกั้นโอกาสรวยที่ต้องคอยนั่งลุ้นว่าเงินจะหมดไปเมื่อใด

อ่านเพิ่มเติมในตอนที่ 1 >>> ดีล SCBX ฮุบ Bitkub เริ่มเสี่ยง ได้ไม่คุ้มเสีย? (ตอนที่ 1)

อ่านเพิ่มเติมในตอนที่ 2 >>> KUBCOIN เจ้ามือรวย แมลงเม่าม้วยมรณา (ตอนที่ 2)

อ่านเพิ่มเติมในตอนที่ 3 >>> Bitkub ยูนิคอร์น สายพันธุ์อันตราย?! (ตอนที่ 3)

อ่านเพิ่มเติมในตอนที่ 4 >>> ลัทธิ Bitkub ตัวป่วนวงการ! สวน “ธปท.-ก.ล.ต.” คุมเข้ม (ตอนที่ 4)

อ่านเพิ่มเติมในตอนที่ 5 >>> บิทคับ เทียบ ไบแนนซ์ ค่าต๋งแพง-ค่าถอนโหด กับดักแมลงเม่า (ตอนที่ 5)

อ่านเพิ่มเติมตอนพิเศษ >>> แฉบิทคับเดินสายล้างสมองเยาวชน ผู้บริหาร SCBX พยายามปิดฟ้าด้วยฝ่ามือ (ตอนพิเศษ)

อ่านเพิ่มเติม>>> “SCBX-Bitkub” ส่อแววดีล ล่ม-เลื่อน

อ่านเพิ่มเติม >>> ราคาเหรียญ KUBCoin ร่วงเหวกว่า -70% จากจุดสูงสุดที่ 580 บาท

อ่านเพิ่มเติม >>> ก.ล.ต.ลงดาบปรับ Bitkub และบอร์ดอ่วม 15 ล้านบาท เหตุคัดเลือกเหรียญ KUB เข้ากระดานเทรดไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์

อ่านเพิ่มเติม>>> Bitkub ประกาศเดินหน้าเทรดเหรียญ Bitkub Coin ในกระดานต่อ ชี้เป็นเหรียญมีคุณสมบัติตาม Listing Rule

อ่านเพิ่มเติม >>> 10 บาทก็เล่นได้ เดินสายบิ้วเยาวชน ถึงคราว "บิทคับ" จะซื้อ "เมืองทอง"

อ่านเพิ่มเติม >>>ลือกันสะพัด ท๊อป บิทคับ ไม่ได้ใช้เงินสดสนับสนุนสมาคมบอลนะจ๊ะ หากแต่เป็นคับคอยน์ที่กำลังดิ่งสุดๆ นักเตะไทยใจสู้ๆ อย่าแผ่วตามเหรียญไปซะล่ะ

อ่านเพิ่มเติม >>> ระวัง KUBCOIN สิ้นค่าซ้ำรอย LUNA (1) / สุนันท์ ศรีจันทรา

อ่านเพิ่มเติม >>> ระวัง KUBCOIN สิ้นค่าซ้ำรอย LUNA (จบ) / สุนันท์ ศรีจันทรา

อ่านเพิ่มเติม >>> SCBX ยังไม่ตัดสินใจซื้อ "บิทคับ" รอ "ดีลดิลิเจนท์" ต่อรองราคา มิ.ย.นี้ ก่อนจะประกาศ "ไปต่อหรือล้มดีล"

อ่านเพิ่มเติม >>> KUB Coin สองมาตรฐาน รายย่อยตาย Bitkub อุ้มรายใหญ่ทำกำไร ปั่นเหรียญ ก.ล.ต. ว่ายังไง?

อ่านเพิ่มเติม >>> จาก PROEN ถึง TVD "เสี่ยซ้ง" ทุ่มงบ 13 ล้านซื้อ KUBcoin ทำสัญญาประกันความเสี่ยงไว้ที่ 90 บาท

อ่านเพิ่มเติม >>> รายย่อยว่าไง?? PROEN กางสัญญาขอ Bitkub รับประกันราคาซื้อคืน KUBCoin ไม่ต่ำกว่าราคาทุน

อ่านเพิ่มเติม >>> PROEN หัวจะปวดเตรียมแถลงทุ่มงบซื้อ KUB 2.5 แสนเหรียญ ทุนเฉลี่ย 291 บาท ล่าสุด -65.29%

อ่านเพิ่มเติม >>> บ.ใหญ่เริ่มตรึงราคาไม่อยู่ Bitkub อัดโปร ฯ ดองเหรียญ Kubcoin 1 ปีแจกโบนัส KBTC หวังกระตุ้นราคาหลังปล่อยโปร On The Rock

อ่านเพิ่มเติม >>> มาจากบิทคับ? จับโป๊ะ ตั๋วแมนยู-ลิเวอร์พูลขายไม่ออกล็อตใหญ่ให้ "พิมรี่พาย" เลหลังมาจากไหน?

อ่านเพิ่มเติม >>> ก.ล.ต. ลงดาบ Bitkub ปรับ 24 ล้านบาท เหตุสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัล ตะเพิดพ้นบอร์ดบริหาร

อ่านเพิ่มเติม >>> ให้คะแนนเหรียญตัวเองสุดเวอร์ ก.ล.ต.ชี้เหรียญ KUB ขาดคุณสมบัติเทรด บี้ "บิทคับ" แก้ไขใน 30 วัน

อ่านเพิ่มเติม >>> ย้อนรอย “บิทคับ” โดน ก.ล.ต.สั่งปรับ 11 ครั้ง เป็นเงินกว่า 43 ล้านบาท

อ่านเพิ่มเติม >>> "บิทคับ"แถให้คะแนนเหรียญเวอร์ ยันคิดตามหลักเกณฑ์ ก.ล.ต.

อ่านเพิ่มเติม >>> ขาลง “บิทคับ” และ "ท๊อป จิรายุส" / สุนันท์ ศรีจันทรา

อ่านเพิ่มเติม >>> เทแบบสุภาพ SCBX แจ้ง ตลท.เลื่อนดีล "บิทคับ" ไม่มีกำหนด

อ่านเพิ่มเติม >>> 'บิทคับ' ดื้อแพ่ง! เมินคำสั่ง ก.ล.ต. ไม่แก้คุณสมบัติอวยเหรียญตัวเองเวอร์ อ้าง "KUB" ได้มาตรฐานตั้งแต่แรก

อ่านเพิ่มเติม >>> ก.ล.ต. ขีดเส้นตาย Bitkub แก้ไขเกณฑ์คัดเลือกเหรียญ KUB เข้ากระดานเทรดให้เสร็จ ภายใน 4 ส.ค.นี้

อ่านเพิ่มเติม >>> ศาสดาเหรียญ Kubcoin แนะรัฐเลิกชูธงนโยบายท่องเที่ยวหนุนเศรษฐกิจ

อ่านเพิ่มเติม >>> อยากโชว์เหนือไม่ดูตัว "ท๊อป-บิทคับ" ให้ไทยเลิก "Amazing Thailand" มุ่งคริปโตฯ กลายเป็นโชว์โง่คนสวดยับ

อ่านเพิ่มเติม >>> PROEN เท Bitkub ถอนลงทุนเหรียญ Kubcoin หลังประเมินความเสี่ยงราคาผันผวน

อ่านเพิ่มเติม >>> พวกมึงเล่นอะไรกัน?! จับพิรุธดีลทิพย์ "โปรเอ็น"-"บิทคับ" ปั่นหุ้น ปั่นเหรียญ

อ่านเพิ่มเติม >>> ถอดรหัส “โปรเอ็นฯ” ล้าง KUB สัญญาณชีพ “บิทคับ” โคม่า!!?

อ่านเพิ่มเติม >>> SCB เท Bitkub อวสานปิดตำนานดีล 17,850 ล้านบาท

อ่านเพิ่มเติม >>> เม่าตายเกลื่อน KUB ดิ่งเหว 30% หลัง SCBX ล้มดีลซื้อ "บิทคับ" 1.78 หมื่นล้าน

อ่านเพิ่มเติม >>> "อาร์ต พศุตม์" ลงทุน บิทคับ จาก 1.2 ล้าน เหลือ 4 แสน ซึ้งนิยาม "แล้วชีวิตคุณจะเปลี่ยนไป"

อ่านเพิ่มเติม >>> บทเรียนจากดีล SCB-Bitkub / ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

อ่านเพิ่มเติม >>> สถานีต่อไป KUB Coin โดนแขวน?!!
กำลังโหลดความคิดเห็น