กรมทางหลวงเร่งสอบเหตุคานสะพานกลับรถถนนพระราม 2 หล่นภายใน 14 วัน ย้ำหากเจ้าหน้าที่ประมาทลงโทษขั้นเด็ดขาด พร้อมเพิ่มมาตรการปลอดภัยระหว่างก่อสร้าง ชี้มีงานใหญ่กว่า 200 โครงการทั่ว ปท.ล่าสุด เกิดเหตุหลังคาด่านมอเตอร์เวย์พังอีก
จากกรณีที่เกิดอุบัติเหตุคานสะพานกลับรถบนถนนพระรามที่ 2 กม.ที่ 34 บริเวณเยื้องกับโรงพยาบาลวิภาราม สมุทรสาคร ต.บางกะเจ้า อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ที่กำลังอยู่ในระหว่างปิดปรับปรุง หล่นลงมาทับรถยนต์ที่กำลังสัญจรบนช่องทางหลัก (Main Road) ขาเข้ากรุงเทพฯ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 31 ก.ค. 2565 ทำให้มีรถยนต์ได้รับความเสียหายรวม 3 คัน ประกอบด้วย รถเก๋งเชฟโรเลต รถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ รถบรรทุกน้ำมันยี่ห้อฮีโน่ และรถบรรทุกแก๊ส มีผู้เสียชีวิตรวม 2 ราย โดยเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 รายนั้น
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า สะพานกลับรถดังกล่าว ก่อสร้างตั้งแต่ปี 2536 ต้องซ่อมบูรณะ ตั้งงบประมาณ 3 ล้านบาท กรมทางหลวงดำเนินการเอง โดยศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 ปทุมธานี (รับผิดชอบในพื้นที่ภาคกลาง) เจ้าหน้าที่ คนงาน และนายช่างควบคุมงานเป็นกรมทางหลวงทั้งหมด ซึ่งขณะเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ และนายช่างคุมงานกำลังตรวจสอบเพื่อเตรียมการเทพื้นสะพานใหม่ ซึ่งเป็นการทำงานตามขั้นตอนปกติ ในระหว่างนั้นได้เกิดเหตุคานตัวริมได้ร่วงหล่นลงมา ทำให้รถยนต์ที่วิ่งผ่านในขณะนั้นไ้ด้รับความเสียหาย 3 คัน เป็นรถเก๋ง 1 คัน รถปิกอัพ 1 คัน และรถบรรทุกน้ำมัน 1 คัน (รถเปล่า) โดยมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย เป็นผู้โดยสารรถปิกอัพ ส่วนคนขับได้รับบาดเจ็บ และมีคนงานของกรมทางหลวงที่กำลังปฏิบัติงานร่วงหล่นลงมาพร้อมคาน 2 ราย โดยบาดเจ็บ 1 ราย อีก 1 รายเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
กรมทางหลวงยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ส่วนสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เกิดเหตุขึ้นนั้น เจ้าหน้าที่กรมทางหลวง พร้อมสภาวิศวกรรมสถานได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสาเหตุร่วมกัน ทั้งนี้ ตนได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มีตัวแทนจากสภาวิศวกร และวิศวกรรมสถานฯ เจ้าหน้าที่กรม ให้รายงานผลภายใน 14 วัน
หากพบเกิดจากเจ้าหน้าที่ประมาท หรือบกพร่อง จะมีบทลงโทษทางวินัย และความผิดทางละเมิด คือ ต้องมีส่วนในการรับชดใช้ค่าเสียหายด้วย
นายสราวุธกล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2565 ที่ถนนพระราม 2 เคยมีอุบัติเหตุเหล็กร่วงลงมาใส่รถยนต์ 3 คัน แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุตนได้เน้นย้ำมาตรการความปลอดภัยในการดำเนินการก่อสร้างทุกโครงการทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้กรมทางหลวงมีโครงการขนาดใหญ่ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างทั่วประเทศกว่า 200 โครงการ
โดยระหว่างก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีการจราจรคับคั่ง กรมทางหลวงได้เน้นย้ำมาตรการความปลอดภัยการก่อสร้างเข้มงวดมาโดยตลอด โดยจะมีการก่อสร้างในเวลากลางคืนช่วง 22.00-04.00 น. และมีการตรวจสอบกระบวนการก่อสร้างทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์ เครื่องจักร บุคลากร อย่างละเอียด เพื่อควบคุมดูแลในด้านความปลอดภัย เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่จะกระทบต่อผู้สัญจรบนถนน
แต่แม้ว่าที่ผ่านมากรมทางหลวงจะเข้มงวดมาตรการอย่างมากแล้ว จากเหตุการณ์ครั้งนี้ กรมทางหลวงจะเพิ่มมาตรการเป็นพิเศษยิ่งขึ้นอีก ซึ่งจะเพิ่มในเรื่องการตรวจสอบจากบุคคลที่สาม ในกระบวนการกำหนดขั้นตอนก่อสร้าง การกำหนดมาตรการความปลอดภัย และกระบวนการก่อสร้างในทุกขั้นตอน
สำหรับขั้นตอนการซ่อมนั้น มีกระบวนการรื้อพื้นสะพานและเทพื้นสะพานใหม่ ซึ่งสะพานกลับรถนี้เป็นระบบคาน และมีพื้นสะพานที่อยู่ด้านบนคาน งานซ่อม จะมีการทุบพื้นรื้อสกัดและเปลี่ยนทดแทนด้วยเหล็กและเทคอนกรีตใหม่ ซึ่งมีการรื้อพื้นสะพานเก่าออก โดยความยากคือ การทำงานอยู่บนทางหลวงสายหลัก โดยทำงานในช่วงเวลากลางคืนที่มีปริมาณรถน้อย เวลาการทำงานค่อนข้างจำกัด
โดยในวันที่เกิดเหตุ เป็นช่วงที่รอเวลาเข้าดำเนินการ ยังไม่ถึงเวลาเริ่มงาน และเกิดเหตุคานชิ้นริมร่วงหล่นลงมา
@สอบ 14 วัน เหตุหลังคาด่านเก็บเงินบางปะกง "มอเตอร์เวย์" ยุบตัว
วันที่ 1 สิงหาคม 2565 เวลา 10.34 น. ยังเกิดอุบัติเหตุหลังคาด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางของทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 ตู้เก็บเงินค่าธรรมเนียมฯ ตู้ที่ 1 และ 2 บริเวณด่านบางปะกง (ขาเข้า) ยุบตัวลง โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า ภายหลังจากการตรวจสอบความเสียหายที่ด่านเก็บเงินค่าผ่านทางบางปะกง พบว่าหลังคา Canopy บริเวณตู้เก็บเงินค่าธรรมเนียมฯ ตู้ที่ 1 และ 2 บริเวณด่านบางปะกง (ขาเข้า) ได้ยุบตัวลงมากีดขวางการจราจรบริเวณหน้าด่านจำนวน 2 ช่องทาง ประกอบด้วย ช่องทางที่ 1 และ 2 เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้ทางและบุคลากร โดยล่าสุดได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง เจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงพานทอง เจ้าหน้าที่กู้ภัยบางปะกง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายบำรุงรักษาทรัพย์สินเข้าร่วมตรวจสอบเพิ่มเติม พร้อมอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ทาง
จากเหตุการณ์ดังกล่าว กรมทางหลวงจะเร่งตรวจสอบสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้อย่างละเอียด โดยจะตั้งกรรมการตรวจสอบ วิเคราะห์สาเหตุที่เกิดขึ้นโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ให้รายงานผลภายใน 14 วัน ขณะเดียวกัน ก็ได้สั่งการให้กองทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองเร่งดำเนินการทั้งการจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและระบายรถหน้าด่านฯ พร้อมเร่งซ่อมแซมปรับปรุงด่านฯ ให้กลับมาใช้งานได้ดังเดิม โดยได้เน้นย้ำให้ซ่อมแซมและเสริมความแข็งแรงของโครงสร้างด้วย เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ทางและเจ้าหน้าที่หน้าด่านฯ ต่อไป