xs
xsm
sm
md
lg

10 บาทก็เล่นได้ เดินสายบิ๊วเยาวชน ถึงคราว "บิทคับ" จะซื้อ "เมืองทอง"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


 บิทคับ หนุนสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ 30 ล้านบาท
กลายเป็นที่ฮือฮาในวงการฟุตบอลไทยจากสเตตัสของ "ท็อป" จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา นักธุรกิจผู้ก่อตั้ง "บิทคับ" บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสกุลเงินดิจิทัล ที่ให้ความสนใจอยากจะลงทุนเทกโอเวอร์สโมสรฟุตบอลในไทยลีก หลังจากโพสต์ว่า "มีสโมสรฟุตบอลไทยไหนสนใจที่จะขายไหมครับ?" เป็นเพียงสเตตัสสั้นๆ แต่ดึงดูดความสนใจของผู้คนในวงการฟุตบอลไทยเป็นอย่างมาก เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันชื่อของเขานั้นกำลังถูกจับตามองอย่างมาก

ที่ผ่านมา "ท็อป" พยายามสร้างแบรนด์ "บิทคับ" ให้โตขึ้น ขยายตลาดให้กว้าง มีการจับมือกับองค์กรเอกชนต่างๆ มากมายในหลายวงการ และช่วงหลังเจ้าตัวยังนำแบรนด์ดังกล่าวเข้าสู่วงการกีฬามากขึ้น โดยเฉพาะกับ "ฟุตบอล" ซึ่งเป็นกีฬาที่เจ้าตัวชื่นชอบตั้งแต่เด็กๆ

"บิทคับ" เริ่มต้นเข้ามาในแวดวงฟุตบอลไทยด้วยการมอบเงินสนับสนุนให้แก่สมาคมฯ จำนวน 30 ล้านบาท เพื่อเข้ามาเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของฟุตบอลทีมชาติไทย และฟุตบอลไทยลีกตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีการผุดกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับ "บิทคับ" ออกมามากมายจนเริ่มเป็นคุ้นตาสร้างภาพจำให้เป็นที่ประทับใจ

หรือ เมืองทอง จะกลายเป็นสีเขียว
นอกจากนี้ "ท็อป-จิรายุส" ยังโผล่เข้าไปเป็นผู้ลงทุนร่วมกับวินิจ เลิศรัตนชัย ในการจัดแมตช์แดงเดือด ระหว่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับลิเวอร์พูล ครั้งแรกในทวีปเอเชีย มีขึ้นในวันที่ 12 กรกฎาคมนี้อีกต่างหาก ซึ่งดูผิวเผินก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเจ้าตัวอ้างว่าเป็นแฟนตัวยงของทีม "ปีศาจแดง" มานานแล้ว

เพราะฉะนั้นการสนใจเข้าไปเทกโอเวอร์สโมสรฟุตบอลในไทยของ "ท็อป-จิรายุส" ก็ดูจะไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะถ้ามองกันตอนนี้ "บิทคับ" กำลังแสดงตนว่าต้องการสร้างแบรนด์ของตัวเองเพื่อตีตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบในกีฬาฟุตบอลให้มากยิ่งขึ้นไปอีก

จากกระแสข่าวดังกล่าว ก็มีบางสโมสรถูกจับจ้องว่าจะมีการเจรจาพูดคุยกับ "บิทคับ" อย่างจริงจังแค่ไหน หนึ่งในนั้นคือ "กิเลนผยอง" เมืองทอง ยูไนเต็ด ของนายระวิ โหลทอง เจ้าของสยามสปอร์ตซินดิเคต ที่กำลังมองหาเงินทุนเพิ่มเติมเข้ามาบริหารสโมสร

ท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา กับความฝันเป็นเจ้าของทีมสโมสรกีฬาฟุตบอลที่ชื่นชอบ
ปัจจุบันถ้าว่ากันตามตรง เมืองทอง ยูไนเต็ด ลดสถานะตัวเองจาก "ยักษ์ใหญ่" กลายมาเป็นทีมธรรมดาที่ไม่ได้มีลุ้นแชมป์เหมือนแต่ก่อนเนื่องด้วยเหตุผลในหลายด้าน โดยเฉพาะในเรื่องของ "เม็ดเงิน" ที่ไม่ได้ทุ่มแบบมหาศาลเหมือนในช่วงพีก

ยิ่งล่าสุดพวกเขาต้องโบกมือลากับสปอนเซอร์หลัก อย่าง "ปูนซิเมนต์ไทย" หรือ SCG ที่ตัดสินใจตัดงบธุรกิจด้านกีฬาทิ้ง ทำให้ "กิเลนผยอง" โดนหางเลขไปด้วย ทำให้เม็ดเงินในการบริหารทีมของพวกเขาย่อมลดน้อยถอยลงไป

หากว่ากันถึงการเข้ามาของ "บิทคับ" ที่กำลังมองหาทีมฟุตบอลสักหนึ่งสโมสรไว้บริหาร "เมืองทอง ยูไนเต็ด" ย่อมกลายเป็นตัวเต็ง เพราะนอกจากเหตุผลที่พวกเขากำลังมองหา "นายทุน" เข้ามาช่วยบริหารทีมแล้ว ชื่อของ "กิเลนผยอง" ก็ยังขายได้ในตลาดฟุตบอลไทยยุคปัจจุบัน และยังมีแฟนคลับที่หนุนหลังอยู่หนาแน่นพอตัว

ทำกิจกรรมร่วมกับนักฟุตบอลทีมชาติ
แต่ ณ เวลานี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า "ท็อป-จิรายุส" ได้เข้าไปพูดคุยจริงจังกับสโมสรใดบ้างหรือยัง เพราะจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้นั้นสืบทราบมาว่าไม่ใช่แค่เพียงเมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมเดียวที่เขาให้ความสนใจ

ทว่าสิ่งที่เราต้องมองให้ลึกลงไปก่อนในตอนนี้เป็นลำดับแรกก็คือเหตุผลที่แท้จริงของ "ท็อป-จิรายุส" ว่ามีเป้าหมายต้องการอะไรกันแน่เพราะการทำธุรกิจกับทีมฟุตบอลไทยสุ่มเสี่ยงต่อการขาดทุน หรือ "เข้าเนื้อ" เป็นอย่างมาก

ร่วมลงทุนจัดงานแดงเดือด แมนฯ ยู - ลิเวอร์พูล
ถ้ามองในแง่ดี "ท็อป" แค่อยากจะลองบริหารทีมฟุตบอลสักทีมเพื่อทำตามหนึ่งในความฝันของตัวเองที่อยากจะเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอล แต่ถ้ามองไปแง่ลบเจ้าตัวอาจจะแค่อยากมีทีมฟุตบอลเพื่อเอาไว้หมุนเวียนเงินที่ได้มาจากการทำธุรกิจก่อนหน้านี้ เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าการทำทีมฟุตบอลนั้นไม่ใช่แค่มีเงินเท่านั้นก็ทำได้ ที่ผ่านมามีตัวอย่างเจ๊งกันมานักต่อนักให้เห็นกันแล้ว

เตะบอลสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริหาร กิเลนผยอง
ถึงแม้ปัจจุบันชื่อของ "บิทคับ" จะมาแรงเป็นอย่างมากในแวดวงสกุลเงินดิจิทัลที่เด็กรุ่นใหม่กำลังให้ความสนใจ แต่ถ้าจะมองให้ลึกลงไปกระบวนการทำงานของ "บิทคับ" ทำให้นึกถึงเว็บเสี่ยงโชคที่ว่อนโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้แบบที่กำจัดอย่างไรก็ไม่สิ้นซาก เพราะมีการแจกเครดิตให้คนที่จะมาลงทุนแบบชนิดที่ว่าไร้การควบคุมดูแลจากหน่วยงานที่ควรจะเข้ามาจัดระบบระเบียบ เนื่องจากส่วนใหญ่มีแต่พวกเยาวชนที่เข้ามาเล่น และค่าเงินพวกนี้ก็ผันผวนอย่างน่าตกใจ ล่าสุดร่วงถึง 70 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

อ่านเพิ่มเติมในตอนที่ 1 >>> ดีล SCBX ฮุบ Bitkub เริ่มเสี่ยง ได้ไม่คุ้มเสีย? (ตอนที่ 1)

อ่านเพิ่มเติมในตอนที่ 2 >>> KUBCOIN เจ้ามือรวย แมลงเม่าม้วยมรณา (ตอนที่ 2)

อ่านเพิ่มเติมในตอนที่ 3 >>>Bitkub ยูนิคอร์น สายพันธุ์อันตราย?! (ตอนที่ 3)

อ่านเพิ่มเติมในตอนที่ 4 >>>ลัทธิ Bitkub ตัวป่วนวงการ! สวน “ธปท.-ก.ล.ต.” คุมเข้ม (ตอนที่ 4)

อ่านเพิ่มเติมในตอนที่ 5 >>>บิทคับ เทียบ ไบแนนซ์ ค่าต๋งแพง-ค่าถอนโหด กับดักแมลงเม่า (ตอนที่ 5)

อ่านเพิ่มเติมตอนพิเศษ >>> แฉบิทคับเดินสายล้างสมองเยาวชน ผู้บริหาร SCBX พยายามปิดฟ้าด้วยฝ่ามือ

อ่านเพิ่มเติม >>>  ดีล “SCBX-Bitkub” ส่อแวว ล่ม-เลื่อน-หลุดราคาคุย ขัดกับมายาภาพที่ “ท๊อป จิรายุส” พยายามสร้าง

อ่านเพิ่มเติม >>> KUBcoin ร่วงแรง -70% หาก้นเหวไม่เจอ สวนทางผลประกอบการ สั่นคลอนวิกฤตศรัทธาสาวก

ประกาศซื้อทีมผ่านโลกออนไลน์
ดังนั้นเรื่องการเข้ามาเทกโอเวอร์สโมสรฟุตบอลของ "ท็อป-จิรายุส" ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ควรจะตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนว่าเม็ดเงินที่จะเข้ามาลงทุนในครั้งนี้มีที่มาอย่างไร คล้ายกับต่างประเทศที่ต้องมีการตรวจสอบรายรับรายจ่ายของเจ้าของคนใหม่อย่าง พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ที่มีขั้นตอนสำคัญนี้เพื่อป้องกันเงินจากธุรกิจสีเทาเข้าสู่แวดวงกีฬานั่นเอง

ดังนั้น สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลไทยคนปัจจุบันควรที่จะมาตรวจสอบเรื่องนี้เพื่อไม่ให้ภาพของวงการลบไปกว่านี้ ก่อนหน้านี้ก็ปล่อยให้ "บิทคับ" นำบรรดานักฟุตบอลดีกรีทีมชาติไปใช้โปรโมตธุรกิจการเงินของตนเองแบบเกินงาม ดังนั้นต้องจับตาดูว่า การรุกตลาดลูกหนังไทยของ "ท็อป-จิรายุส" ที่คราวนี้เล่นใหญ่ทีเดียวด้วยการจะซื้อทีมฟุตบอล หลังจากบิ๊วเยาวชนไทยชนิดที่ว่าเงิน 10 บาทก็เอาหมดโดยไม่สนอะไรทั้งสิ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น