xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.จับมือ กสศ.ตั้ง “โครงการลมหายใจเพื่อน้อง” นำเด็กหลุดจากระบบการศึกษา 6 หมื่นรายกลับเข้าเรียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ปตท.รุก “โครงการลมหายใจเพื่อน้อง” ผนึก กสศ.คืนโอกาสให้เด็กนักเรียนและเยาวชนเสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษากว่า 6 หมื่นรายที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 กลับเข้าเรียนในปีการศึกษา 2565 โดย ปตท.มอบทุนการศึกษา 150 ล้านบาทผ่าน กสศ.

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ร่วมพิธีแสดงเจตนารมณ์ “โครงการลมหายใจเพื่อน้อง” เพื่อคืนโอกาสให้แก่เด็กนักเรียนและเยาวชนในช่วงชั้นรอยต่อ ที่มีความเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษาในปี 2565 ให้สามารถกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยมี ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการบริหาร กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา และ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นประธานในพิธีเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2565             นายอรรถพลกล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ปตท. ได้ช่วยเหลือ แบ่งเบาภาระภาครัฐจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และจัดตั้ง “โครงการลมหายใจเดียวกัน” ขึ้นในปี 2564 เพื่อเพิ่มศักยภาพให้แก่ระบบสาธารณสุขในการรับมือกับสถานการณ์โรคระบาด อย่างไรก็ดี โควิด-19 ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ทำให้รายได้ของหลายครัวเรือนลดลง เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เด็กนักเรียนจำนวนมากมีความเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษา ปตท.จึงจัดตั้ง “โครงการลมหายใจเพื่อน้อง” ขึ้น โดยตั้งเป้าหมายมอบทุนการศึกษากว่า 150 ล้านบาท ผ่านกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ กสศ. ให้แก่น้องๆ เยาวชนจากครัวเรือนที่มีรายได้น้อยและได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิด-19 จำนวนกว่า 60,000 คนทั่วประเทศ

ทั้งนี้ จากความตั้งใจของ ปตท.ที่ต้องการสร้างการมีส่วนร่วมในการลดช่องว่างทางการศึกษาดังกล่าว จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมสร้างโอกาสในกิจกรรม PTT Virtual Run เพื่อแปลงกิจกรรมการเดินหรือวิ่งให้เป็นทุนการศึกษา โดยกิจกรรมจะเริ่มเปิดรับสมัครตั้งแต่ 15 พฤษภาคม ศกนี้

“ทุกลมหายใจของเราจะมีคุณค่ายิ่ง หากสามารถช่วยสนับสนุนการศึกษาให้แก่น้องๆ กว่า 60,000 คนได้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา ปตท.จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกภาคส่วนร่วมกิจกรรม PTT Virtual Run  เดินหรือวิ่งสะสมระยะทาง ทุก 1 กิโลเมตร มีมูลค่าเท่ากับ 250 บาท โดย 10 กิโลเมตร จะมีมูลค่าเป็นทุนการศึกษาจำนวน 2,500 บาท ซึ่งสามารถพาน้องกลับโรงเรียนได้ 1 คน”  นายอรรถพลกล่าว

ปตท.ได้ให้ความสำคัญต่อการสนับสนุนด้านการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง ด้วยเชื่อว่าการศึกษาคือหนึ่งในรากฐานสำคัญที่จะนำพาประเทศไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน จึงได้จัดตั้งสถาบันวิทยสิริเมธี และโรงเรียนกำเนิดวิทย์ เพื่อส่งเสริมเยาวชนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงมีโรงเรียนภายใต้ PTT Group School Model ที่สนับสนุนโดยกลุ่ม ปตท.อีกกว่า 200 แห่ง


ดร.ไกรยสกล่าวว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของประเทศไทย และขนาดประชากรของครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจนของสภาพัฒน์ทั้งในและนอกระบบการศึกษา มีอยู่มากกว่า 2 ล้านคน และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด 2 ปีที่ผ่านมา จากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการระบาดของโรคโควิด-19 อีกทั้งช่วงชั้นรอยต่อระหว่างปีการศึกษาในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกๆ ปี คือช่วงเวลาสำคัญที่จะกำหนดชะตาชีวิตการเรียนต่อของนักเรียนในครัวเรือนที่มีรายได้น้อย ซึ่งก่อนปิดภาคเรียนที่ผ่านมา กสศ.สำรวจพบว่ามีนักเรียนในครัวเรือนยากจนพิเศษช่วงชั้นรอยต่อจำนวนราว 60,000 คนที่มีความเสี่ยงหลุดออกจากระบบ ซึ่งการหลุดออกจากระบบการศึกษาก่อนวัยอันควรจะทำให้พวกเขาติดอยู่ในกับดักความยากจน และมีโอกาสสูงมากที่ความยากจนจากรุ่นพ่อแม่จะถูกส่งต่อไปยังรุ่นสู่รุ่น ซึ่งเราเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า ปัญหาความยากจนข้ามชั่วคน (Intergenerational Poverty) ที่อยู่คู่กับสังคมไทยมายาวนาน

“ในวันนี้ กสศ.จึงขอขอบคุณ ปตท. ที่ให้ความไว้วางใจ กสศ.ในการนำเงินที่ตั้งเป้าหมายไว้จำนวนกว่า 150 ล้านบาท เพื่อช่วยสนับสนุนเยาวชนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งคณะกรรมการบริหาร กสศ.มีนโยบายให้สำนักงาน กสศ.มุ่งใช้ฐานข้อมูล ผลงานวิจัย และผลการพัฒนานวัตกรรมต้นแบบการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเหนี่ยวนำทรัพยากร และความร่วมแรงร่วมใจจากหน่วยงานภาคีทุกภาคส่วนให้เข้ามามีส่วนร่วมเป็นพลังขับเคลื่อนการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาอย่างยั่งยืนตามกลยุทธ์ All for Education”
กำลังโหลดความคิดเห็น