สภาคองเกรสของสหรัฐ เผยร่างกฏหมายเกี่ยวกับการกำกับดูแลคริปโต และสินทรัพย์ดิจิทัล ชี้เป็นกฎหมาย cryptocurrencies ที่ครอบคลุมที่สุด ทั้งหลักทรัพย์ สินค้าโภคภัณฑ์ และสนับสนุนการรวบรวมข้อมูลภาษี
จากการเปิดเผยของ coindesk ระบุถึงร่างกฏหมายเกี่ยวกับการกำกับดูแลคริปโต และสินทรัพย์ดิจิทัลโดย Don Beyer ตัวแทนจากสภาคองเกรสของสหรัฐ ระบุว่า ร่างกฎหมายที่จะมีการควบคุมคริปโตเคอร์เรนซีและสินทรัพย์ดิจิทัล จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC)
ขณะเดียวกันกฏหมายฉบับดังกล่าวจะอนุญาตให้รัฐมนตรีกระทรวงการคลังยับยั้งการสร้าง Stablecoin ได้ โดยหน่วยงานกำกับดูแลโดยตรงเพื่อกำหนดกฎเกณฑ์สำหรับการกระจายอำนาจทางการเงิน (DeFi) และอาจสร้างกฎบัตรสำหรับการแลกเปลี่ยน crypto ท่ามกลางมาตรการอื่น ๆ
“โครงสร้างตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลและพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ลงทุน” จำนวน 58 หน้า ซึ่งเบเยอร์เปิดตัวเมื่อวันพฤหัสบดี พยายามที่จะสร้างระบบการกำกับดูแลที่ละเอียดถี่ถ้วนสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล โดยส่วนหนึ่งจะทำโดยการกำหนดประเภทของ cryptocurrencies ที่อาจเป็นหลักทรัพย์ ซึ่งสามารถถือเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ และสนับสนุนการรวบรวมข้อมูลภาษีเพื่อวัตถุประสงค์ในการรายงาน
ด้วยเหตุนี้ ร่างกฎหมายนี้จึงดูเหมือนว่าจะตอบสนองความต้องการอันยาวนานของอุตสาหกรรมเพื่อความชัดเจนด้านกฎระเบียบ แต่ในกรณีที่ร่างกฎหมายอื่นๆ พยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้ทีละน้อย ซึ่งข้อกำหนดนี้ครอบคลุมในหลายประเด็นในคราวเดียว และดูเหมือนว่าจะได้รับการวิจัยอย่างละเอียด แม้ว่าบทบัญญัติบางอย่างจะจัดอันดับผู้สนับสนุนการเข้ารหัสลับก็ตาม
อย่างไรก็ดียังไม่ชัดเจนว่าร่างกฎหมายดังกล่าวนั้น มีการสนับสนุน cryptocurrencies ประเภทใด หรือไทม์ไลน์ที่เป็นไปได้สำหรับข้อความดังกล่าวอาจมีลักษณะอย่างไร แต่การตีความกฏหมาย การบังคับใช้ และกฏเกณฑ์การกำหนดบทลงโทษของร่างกฎหมาย ได้ทำให้ผู้คนในแวดวงคริปโตสงสัยนโยบายการเข้ารหัสและความเป็นส่วนตัว
ขณะที่ Marc Goldich หุ้นส่วนของสำนักงานกฎหมายของ Axler Goldich LLC กล่าวว่า "สำหรับกฎหมายที่เสนอซึ่งดูเหมือนไม่มีที่ไหนเลย มันมีความครอบคลุมอย่างไม่น่าเชื่อ และผู้เขียนมีความเข้าใจในเทคโนโลยีพื้นฐานอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามจะต้องใช้เวลาพอสมควรในการพิจารณาข้อดีข้อเสียที่จะเกิดขึ้น ซึ่งต้องดูว่ามันจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอย่างไร และที่น่าสนใจว่าร่างกฎหมายนี้มีประเด็นหรือไม่ แต่จากที่ประเมินภาพรวม ถือได้ว่านี่เป็นร่างกฎหมายคริปโตที่มีการเขียนออกมาดีที่สุดในปัจจุบัน”
อย่างไรก็ดี Beyer ในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจของสภาคองเกรส และเป็นสมาชิกของคณะกรรมการ House Ways and Means ที่กำหนดนโยบายภาษี จนถึงปัจจุบัน ระบุว่าการมีส่วนร่วมของเขากับสินทรัพย์ดิจิทัลดูเหมือนจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันมากที่สุด ตามบันทึกสาธารณะ ที่มีผู้บริจาครายใหญ่ 2 อันดับแรกของเขาในรอบการเลือกตั้งล่าสุดคือสำนักงานกฎหมายของ Akin Gump และ IHS Markit ผู้ให้บริการข้อมูลทางการเงิน ซึ่งทั้งคู่ได้ทำงานเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลแล้ว แต่มุ่งเน้นไปที่สายธุรกิจแบบดั้งเดิม
ทั้งนี้ร่างกฎหมายนี้ดูเหมือนว่าจะอนุญาตให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งเป็นธนาคารกลางของสหรัฐ สร้างสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ซึ่งน่าจะตอบสนองต่อคำแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดที่ระบุว่าพวกเขาไม่แน่ใจว่า พวกเขามีอำนาจในการดำเนินการดังกล่าวหรือไม่
ขณะที่การตรวจสอบของ Beyer ซึ่งเป็นข้อเสนอทางกฎหมายฉบับที่สองเกี่ยวกับ cryptocurrencies ในสัปดาห์นี้ เกิดขึ้นเมื่อฝ่ายนิติบัญญัติในสหรัฐฯ มีบทบาทมากขึ้นในพื้นที่สินทรัพย์ดิจิทัล โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ฝ่ายนิติบัญญัติจัดให้มีการพิจารณาคดีที่แตกต่างกันสามครั้งซึ่งเกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล เจ้าหน้าที่ที่มาจากการเลือกตั้งหลายคนแสดงความสงสัยเกี่ยวกับอุตสาหกรรมหรือแง่มุมต่างๆ พูดคุยถึงข้อกังวลด้านการคุ้มครองผู้บริโภคหรือชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงต่อความมั่นคงทางการเงินที่รับรู้ ในวุฒิสภา ร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานแบบสองพรรคในปัจจุบันได้รวมบทบัญญัติที่พยายามหาเงิน 28 พันล้านดอลลาร์โดยการบังคับใช้ข้อกำหนดในการรายงานข้อมูลในวงกว้างสำหรับผู้ใช้ crypto มากกว่าที่สหรัฐฯ มีในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม แผนนี้ยังคงเป็นส่วนที่เน้นในวงแคบของร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐาน ในทางตรงกันข้าม ข้อเสนอของ Beyer นั้นเกี่ยวกับคริปโต และน่าจะต้องการผู้สนับสนุนร่วมในคณะกรรมการที่มีเขตอำนาจทางการตลาด (Senate Banking หรือ House Financial Services) ซึ่งครอบคลุมกับหน่วยงานเศรษฐกิจอื่นๆด้วย