xs
xsm
sm
md
lg

กรมรางเปิดตัวสถาบันวิจัยและพัฒนาระบบราง ลุยผลิตชิ้นส่วน-รถไฟ EV ในประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ราชกิจจาฯ ประกาศ พ.ร.ฎ.จัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง  ขร.เดินหน้าศูนย์ศึกษา วิจัย นวัตกรรม พัฒนาความรู้ระบบรางของไทย ตั้งเป้าผลิตชิ้นส่วนและผลิตรถไฟ EV ต้นแบบในประเทศ

กรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2564 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2564 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป หรือมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค. 2564 เป็นต้นไป

สำหรับเหตุผลในการประกาศพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ สืบเนื่องจากการที่ประเทศไทยจำเป็นต้องพัฒนาและลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งทางรางอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงต้องพึ่งพาองค์ความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีระบบรางจากต่างประเทศเป็นหลัก ดังนั้น เพื่อให้สามารถพัฒนาระบบรางได้อย่างยั่งยืนและลดการพึ่งพาต่างประเทศ

จึงควรจัดตั้งหน่วยงานในประเทศที่มีหน้าที่ศึกษา วิจัย เปรียบเทียบเทคโนโลยีระบบราง และประเมินความต้องการด้านเทคโนโลยีระบบรางเพื่อใช้ในการวางยุทธศาสตร์ของประเทศ พร้อมทั้งบริหารจัดการงานวิจัย การพัฒนาเทคโนโลยีและบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับระบบรางและการขนส่งทางราง ตลอดจนการรับ แลกเปลี่ยน และถ่ายทอดเทคโนโลยีดังกล่าว เพื่อนำไปใช้ประโยชน์และส่งเสริมอุตสาหกรรมในระบบการขนส่งทางราง รวมถึงการบูรณาการความร่วมมือและประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีระบบราง จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ขึ้นมา

โดยสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (สทร.) จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อจัดทำยุทธศาสตร์ด้านเทคโนโลยีระบบรางของประเทศ วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง สร้างความร่วมมือกับองค์กรทั้งในและต่างประเทศในการพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง รวมทั้งพัฒนาบุคลากรด้านระบบราง และจัดทำฐานข้อมูลด้านเทคโนโลยีระบบราง เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติและการสนับสนุนอุตสาหกรรมระบบรางของประเทศอย่างแท้จริง

มีเป้าหมายเร่งด่วน คือ การวิจัยชิ้นส่วนในระบบรางเพื่อให้สามารถผลิตรถไฟในประเทศ (Local Content) ได้ตามนโยบาย Thai First การวิจัยเพื่อสร้างรถไฟ EV ต้นแบบครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมกับการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน และโครงการอื่นๆ ในอนาคต

ในส่วนของเรื่องทุนและทรัพย์สินในการดำเนินการ จะมีเงินประเดิม เงินอุดหนุนทั้งจากภาครัฐและเอกชน ค่าธรรมเนียมและค่าตอบแทนจากการให้บริการของสถาบันวิจัยฯ และดอกผลรายได้จากทรัพย์สิน โดยสถาบันวิจัยฯ จะมีแนวทางในการจัดองค์การในแบบศูนย์ความเป็นเลิศในแต่ละด้าน เช่น ศูนย์ความเป็นเลิศด้านรถไฟความเร็วสูง ศูนย์ความเป็นเลิศด้านรถไฟขนส่งสินค้า ศูนย์ความเป็นเลิศด้านรถไฟฟ้าในเมือง ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการพัฒนาบุคลากรระบบราง และศูนย์ความเป็นเลิศด้านข้อมูลระบบราง เป็นต้น

ซึ่งแต่ละศูนย์จะเน้นการร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรม ภาคการศึกษา และหน่วยงานผู้ใช้เทคโนโลยี เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมระบบรางให้บรรลุผลเป็นรูปธรรมต่อไป

โดยภายหลังการประกาศพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2564 แล้ว คณะกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบรางตามบทเฉพาะกาล อันประกอบด้วย ปลัดกระทรวงคมนาคม เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย และผู้แทนกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และอธิบดีกรมการขนส่งทางราง จะร่วมกันประชุมหารือในวาระแรกเริ่มเกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง รวมทั้งการจัดสรรงบประมาณให้แก่สถาบันฯ และการสรรหาเจ้าหน้าที่มาปฏิบัติงานยังสถาบันฯ ต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น