xs
xsm
sm
md
lg

อินเทอร์เน็ตคาเฟ่เกาหลีใต้ขุดคริปโตสู้โควิด แอปคาราโอเกะสุดปังแจกโทเคนฝ่าล็อกดาวน์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


โควิด-19 ทำให้ธุรกิจต่างๆ ต้องปรับตัวหนีตาย
โควิดทำธุรกิจสันทนาการและบันเทิงเดือดร้อนไปตามๆ กัน ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับเกาหลีใต้ที่ห้างร้านปิดกิจการกันเพียบ เว้นแต่เจ้าของอินเทอร์เน็ตคาเฟ่กลุ่มหนึ่งที่ค้นพบวิธีทำเงินในช่วงล็อกดาวน์ด้วยการเปลี่ยนไปใช้เวลาว่างและทรัพยากรที่มีอยู่แล้วขุดคริปโต ขณะที่ธุรกิจคาราโอเกะปรับตัวผุดบริการผ่านมือถือและแจกโทเคนสำหรับนักร้องสมัครเล่นขวัญใจผู้ใช้คนอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีบริการบนบล็อกเชนที่เสนอทางเลือกในการนำเสนอผลงานสำหรับคนทำหนัง พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ใช้เขียนรีวิวและจัดอันดับหนังเพื่อรับโทเคน

บรรดาโชซุนหรือผู้ดำเนินการ “พีซีบัง” ซึ่งหมายถึงอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ในเกาหลีใต้ ไม่อาจรู้ได้เลยว่า จะได้เปิดร้านอีกเมื่อไหร่ ด้วยเหตุนี้การขุดคริปโตจึงเป็นทางเลือกที่ดีมากเพื่อเอาตัวรอดจากมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงที่โควิดระบาด

เจ้าของพีซีบังบางรายในโซลกำลังตั้งหน้าตั้งตาขุดอีเธอเรียมโดยใช้คอมพิวเตอร์สเปกสูงและกราฟิกการ์ดระดับสุดยอดที่มีอยู่แล้ว

เจ้าของร้านคนหนึ่งเล่าว่า จำนวนลูกค้าหดไปเยอะนับตั้งแต่โควิดระบาด ทำให้ต้องหารายได้เสริมซึ่งก็คือการขุดอีเธอเรียมด้วยคอมพิวเตอร์กว่า 30 เครื่องในร้าน

ชายวัย 34 ปีผู้นี้ที่เปิดเผยแค่ชื่อว่า คิม เสริมว่า ในเวลาแค่ 2 สัปดาห์เขาทำเงินได้มากกว่า 3.5 ล้านวอน (ประมาณ 95,000 บาท) ในช่วงเดือนที่อากาศเย็นที่สุด และการขุดคริปโตยังช่วยให้เขาประหยัดค่าไฟฟ้าในการทำความร้อนได้อีกต่อ

แม้ข่าวบอกว่า กระแสการขุดคริปโตของบรรดาร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ในเกาหลีใต้อาจอยู่ไม่นานนักเนื่องจากราคากราฟิกการ์ดแพงขึ้นเรื่อยๆ แต่เจ้าของร้านบางรายยังฝากความหวังกับรายได้ทางเลือกนี้ขณะที่ทางการยังไม่กำหนดวันเวลาแน่นอนที่จะอนุญาตให้อินเทอร์เน็ตคาเฟ่กลับมาให้บริการอีกครั้ง

วิกฤตโรคระบาดส่งผลต่อร้านคาราโอเกะเช่นเดียวกัน กิจกรรมนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ชาวเกาหลีใต้ แต่ระยะหลังติดปัญหาที่รัฐบาลห้ามรวมกลุ่มทำกิจกรรมเกิน 5 คน ส่งผลให้ร้านคาราโอเกะมากมายต้องปิดให้บริการ และอุตสาหกรรมคริปโตไม่รอช้าที่จะฉกฉวยโอกาสนี้

สื่อท้องถิ่นของเกาหลีใต้รายงานว่า “โนแรบัง” หรือร้านคาราโอเกะ ปิดกิจการไปแล้วอย่างน้อย 2,137 แห่งนับตั้งแต่โควิดระบาด

ขณะเดียวกัน รายงานจากเอฟเอ็น นิวส์พบว่า แอปคาราโอเกะบนบล็อกเชน “ซัมซิง” มียอดผู้ใช้ทะลุ 400,000 รายเมื่อเร็วๆ นี้ หรือเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจาก 195,000 คนในช่วง 6 เดือนล่าสุด

แพลตฟอร์มซัมซิงเปิดโอกาสให้นักร้องสมัครเล่นร้องคาราโอเกะและอัพโหลดลงบนแอปบนสมาร์ทโฟน โดยผู้ที่ใช้งานบ่อยหรือนักร้องที่เป็นที่ชื่นชอบจะได้รางวัลเป็นโทเคนจากผู้ใช้คนอื่นๆ

แม้เหรียญที่ได้ 1 ใน 3 ต้องแบ่งให้แพลตฟอร์มเพื่อช่วยค่าบำรุงรักษาและค่าลิขสิทธิ์เพลง แต่นับวันซัมซิงยิ่งได้รับความนิยมมากขึ้นทั่วเกาหลีใต้

นอกจากธุรกิจคาราโอเกะแล้ว แพลตฟอร์มท่องเที่ยวบนบล็อกเชน “มิลค์” ยังใช้กลยุทธ์การแจกโทเคนเพิ่มฐานผู้ใช้กว่าสองเท่าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา จาก 110,000 คนเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว

โทเคนของมิลค์สามารถนำไปซื้อหนังสือ แลกเวาเชอร์ในห้างสรรพสินค้าและบนแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซ “ชินเซเก” หรือแลกเป็นเหรียญเพื่อจองที่พักกับ “ยาโนลจา” สตาร์ทอัพการเดินทางท่องเที่ยวระดับยูนิคอร์น

และขณะที่โรงหนังในเกาหลีใต้ยังเปิดให้บริการไม่ได้ คอหนังสามารถใช้บริการ “มูฟวี่บล็อก” แทน

มูฟวี่บล็อกเป็นบริการบนบล็อกเชนที่เสนอทางเลือกในการนำเสนอผลงานสำหรับคนทำหนังในเกาหลีใต้ ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้ผู้ใช้เขียนรีวิวและจัดอันดับหนังเพื่อรับโทเคนที่สามารถนำไปแลกเปลี่ยนในร้านเทรดคริปโตภายในประเทศ เช่น บิตธัมป์
กำลังโหลดความคิดเห็น