xs
xsm
sm
md
lg

ก.ล.ต.รุกคุมเทรดคริปโทฯ หวังคุ้มครองผู้ลงทุนลดเสี่ยง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ก.ล.ต. เตรียมยกระดับการกำกับซื้อขาย ‘คริปโทเคอร์เรนซี’ เพื่อคุ้มครองผู้ลงทุน พร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็นร่างประกาศรองรับการเสนอขายกองทุนรวมภายใต้โครงการจัดการลงทุนระหว่างเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและไทย ภายหลังการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ระหว่าง ก.ล.ต. และ Securities and Futures Commission (SFC) เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2564

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เปิดรับฟังความเห็นเกี่ยวกับการกำหนดคุณสมบัติของผู้ลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี และกำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้ประกอบธุรกิจต้องทดสอบความรู้ (knowledge test) ของผู้ลงทุนก่อนการให้บริการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อให้มีกลไกคุ้มครองผู้ลงทุนที่เหมาะสม สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์พร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและผู้เกี่ยวข้องจนถึงวันที่ 27 มีนาคม 2564 และจัดเสวนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์ เพจ “สำนักงาน กลต.” ในวันที่ 24 มีนาคม 2564

เนื่องจากคริปโทเคอร์เรนซี (cryptocurrency) เป็นนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ที่มีความผันผวนสูง การลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีจึงต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจและความสามารถรับความเสี่ยงจากการได้รับผลขาดทุนจากการลงทุนได้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จึงมีแนวคิดที่จะกำหนดคุณสมบัติของผู้ลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีเพื่อให้มีกลไกคุ้มครองผู้ลงทุนที่เหมาะสมและสอดคล้องกับระดับความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์

ดังนั้น ก.ล.ต. จึงเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อหลักการกำหนดคุณสมบัติของผู้ลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี และการกำหนดให้มีการทดสอบความรู้ก่อนการให้บริการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อประกอบการพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ที่เหมาะสมดังต่อไปนี้ เช่น 1.พิจารณาจากคุณสมบัติด้านฐานะการเงินและ/หรือด้านความรู้ความเข้าใจสำหรับผู้ลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี ส่วนผู้ลงทุนที่ไม่เข้าข่ายคุณสมบัติที่กำหนด สามารถลงทุนได้โดยผ่านผู้ที่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Fund Manager) และ 2.กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต้องจัดให้มีการทดสอบความรู้ผู้ลงทุน (knowledge test) ก่อนเริ่มให้บริการแก่ผู้ลงทุน เป็นต้น

ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวไว้ที่ https://bit.ly/3knvOOk ผู้เกี่ยวข้องและผู้ที่สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง e-mail : ekarit@sec.or.th และ chawin@sec.or.th จนถึงวันที่ 27 มีนาคม 2564 นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังจัดการเสวนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์ เพจ “สำนักงาน กลต.” ในวันที่ 24 มีนาคม 2564 เวลา 14.00-16.00 น.

พร้อมกันนี้ ก.ล.ต.เปิดรับฟังความคิดเห็นร่างประกาศรองรับการเสนอขายกองทุนรวมภายใต้โครงการจัดการลงทุนระหว่างเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและไทย ภายหลังการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ระหว่าง ก.ล.ต. และ Securities and Futures Commission (SFC) เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2564 ซึ่ง ก.ล.ต. และ SFC ได้ร่วมลงนาม MoU เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2564 เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเสนอขายกองทุนรวมระหว่างกันภายใต้โครงการดังกล่าวนั้น โครงการ HK-TH MRF (Mutual Recognition of Funds between Hong Kong Special Administrative Region of the People's Republic of China and Thailand : HK-TH MRF) จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจในการขยายฐานผู้ลงทุน และเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้แก่ผู้ลงทุนของทั้ง 2 ตลาด รวมทั้งเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือด้านตลาดทุนตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ได้ร่วมลงนามเมื่อปี 2562

ในการนี้ ก.ล.ต. จึงได้ยกร่างประกาศรวม 3 ฉบับ เพื่อขยายขอบเขตหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายกองทุนรวมต่างประเทศในไทย (inbound) และการนำกองทุนรวมไทยไปเสนอขายในต่างประเทศ (outbound) ให้รองรับ HK-TH MRF ด้วย และในส่วนนี้เปิดรับจนถึงวันที่ 5 มีนาคม 2564
กำลังโหลดความคิดเห็น