xs
xsm
sm
md
lg

อคส.ลงนาม MOU กับ 4 เอกชน พัฒนาห้องเย็นรับฝากสินค้า “ประมง-เกษตร”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



อคส.ลงนาม MOU กับเอกชน 4 ราย พัฒนาห้องเย็นราษฎร์บูรณะ ใช้รับฝากสินค้าประมง-เกษตร เพื่อเพิ่มรายได้ให้องค์กร พร้อมเดินหน้าขายสินค้าเกษตรทั้งในและต่างประเทศ คาดภายใน 3 ปี พลิกกลับมามีกำไร ยอมรับผลพวงทุจริตจัดซื้อถุงมือยางกระทบการลงทุน

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า อคส.ได้ลงนามบันทึกความตกลง (MOU) กับ 4 กลุ่มผู้ประกอบการ ได้แก่ สมาคมส่งเสริมการประมง บริษัทกลุ่มผู้ค้าสัตว์น้ำปทุมธานี ผู้แทนเรือเดินทะเล และผู้ประกอบการรับฝากสินค้าในห้องเย็น ในการพัฒนาห้องเย็นรองรับสินค้าประมงและสินค้าเกษตร และพัฒนาท่าเทียบเรือราษฎร์บูรณะ ที่คลังสินค้าราษฎร์บูรณะ เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ อคส. และจะทำให้ อคส.กลับมามีกำไรภายใน 3 ปี จากปกติที่ขาดทุนเฉลี่ยปีละ 120-150 ล้านบาท

ทั้งนี้ อคส.มีรายได้จากการให้เช่าคลังสินค้าอยู่ 2 แห่ง คือ คลังห้องเย็นที่ถนนราษฎร์บูรณะ และคลังสินค้า 1 ธนบุรี แต่การใช้ประโยชน์ยังไม่เต็มที่ จึงต้องมีการพัฒนาและปรับปรุงคลังสินค้าให้มีความทันสมัย นำเครื่องจักรมาใช้งานมากขึ้น เพื่อให้ใช้งานได้เต็มศักยภาพและเก็บค่าเช่าได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งมีแผนจะขุดลอกพื้นที่บริเวณหน้าท่าเรือ เพื่อให้เรือเข้ามาจอดเพื่อขนถ่ายสินค้าได้มากขึ้นตามยุทธศาสตร์แก้มลิง คาดว่าจะใช้งบประมาณสำหรับปรับปรุง 72 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน มีแผนสร้างรายได้ให้แก่องค์กรโดยเฉพาะการจำหน่ายสินค้าเกษตร เช่น ข้าว ผลไม้ ที่ออกตามฤดูกาลผ่านร้านธงฟ้า โมเดิร์นเทรด ช่องทางออนไลน์ ส่วนการหาตลาดต่างประเทศได้ประสานกรมการค้าต่างประเทศเพื่อส่งออกสินค้าเกษตร

“คาดว่าปีนี้ อคส.จะมีรายได้ 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการขายอาหารในเรือนจำ 600 ล้านบาท ที่เหลือเป็นการขายสินค้าเกษตรและการให้เช่าคลัง ส่วนการลงทุนใหม่ ยอมรับว่าจากการทุจริตถุงมือยางมีผลต่อการลงทุนใหม่ของ อคส. แต่ก็มีช่องทางให้ อคส.หาเงินจากช่องทางอื่นๆ มาใช้ได้ เช่น งบประมาณ หรือเงินสะสมของ อคส.ที่เหลืออีกกว่า 1,000 ล้านบาท เพราะเงินสะสมหายไป 2,000 ล้านจากการจัดซื้อถุงมือยาง ซึ่ง อคส.จะตามเงินที่หายไปพร้อมดอกเบี้ยมาคืน อคส.จนครบ” นายเกรียงศักดิ์กล่าว

นายประมวล รักใจ ที่ปรึกษาผู้อำนวยการ อคส.กล่าวว่า คลังสินค้าราษฎร์บูรณะของ อคส.มีศักยภาพรองรับสินค้าประมงและสินค้าเกษตรได้ โดยถือเป็น 1 ใน 22 ท่าเทียบเรือที่เรือสินค้าขนสัตว์น้ำนำเข้าที่ท่าเทียบเรือ โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการนำเข้าปลาทูน่าจากต่างประเทศมาขึ้นที่ท่าเทียบเรือของคลังสินค้านี้ 10-12% จากการนำเข้าปลาทูน่าจำนวน 8 แสนตันทั่วประเทศ หากโครงการทำห้องเย็นเสร็จสิ้น ก็จะทำให้ อคส.มีรายได้เพิ่มเติมขึ้นอีก


กำลังโหลดความคิดเห็น