(ชมคลิป) ลูกค้าอยากแซบ ต้องได้แซบ! “หอมปลาเผา” ปรับตัวสู้โควิด จัดโปรฯ เน้นขายออนไลน์ เสิร์ฟเมนูอีสานรสนัวถึงบ้าน

“ร้านอาหารอีสาน” ถือเป็นร้านอาหารที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ของเหล่านักชิม ด้วยรสจัดจ้านอย่างมีเอกลักษณ์ที่ผสานกลิ่นเครื่องปรุงถิ่นอีสานที่ทำให้ในทุกๆ เมนูมีรสชาติแซบนัวลงตัว จึงทำให้ธุรกิจร้านอาหารอีสานเติบโตอย่างต่อเนื่อง และได้รับความนิยมในทุกยุคทุกสมัย แต่ด้วยในปัจจุบันเกิดการสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด – 19 ที่ได้ สร้างผลกระทบในหลายๆ ด้าน รวมไปถึงธุรกิจร้านอาหารอีสานก็ได้รับผลกระทบจากวิกฤตในครั้งนี้ ซึ่งทำให้บางร้านต้องปิดตัวลง หรือบางร้านต้องปรับการดำเนินงานและกลยุทธการขาย เพื่อประคับประคองร้านให้อยู่รอดในช่วงนี้

“ร้านหอมปลาเผา” เป็นอีกหนึ่งในร้านอาหารอีสาน ย่านซอยลาดพร้าว 87 ที่ได้มีการปรับการดำเนินงานและกลยุทธ์การขาย เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตแบบ New normal ที่สามารถรอดจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด – 19 ระลอกแรกมาได้ และกำลังสู้กับการระบาดระลอกใหม่ ด้วยการเน้นขายแบบเดลิเวอรี่ หรือ บริการส่งอาหาร เพื่อจัดส่งให้เหล่านักชิมสาวกอาหารอีสานได้กินกัน ไม่ว่าจะที่ไหนก็สามารถแซบนัวกับอาการอีสานได้ พร้อมกับมีการจัดโปรโมชั่นสร้างแรงจูงใจ เพื่อดึงดูดและเพิ่มยอดขาย

นายชัยวัฒน์ จูงพล เจ้าของ “ร้านหอมปลาเผา” เล่าถึงความเป็นมาก่อนสถานการณ์โควิด – 19 ว่า ร้านหอมปลาเผานั้นเปิดมาแล้ว 8 ปี เริ่มจากคุณแม่ที่ชื่นชอบการทำอาหาร จนเกิดแรงบันดาลใจทำร้านอาหารอีสานขึ้นมาเพื่อที่จะได้ปรุงอาหารอีสานในแบบฉบับของคุณแม่ให้ลูกค้าได้กิน ส่วนชื่อ “หอมปลาเผา” นั้น มาจากคำพูดในเวลาที่ได้กลิ่นตอนนำปลาไปเผากับถ่าน เมื่อได้กลิ่นแล้วก็ทำให้อยากกินปลาเผากับอาหารอีสาน ซึ่งชื่อนี้ก็ได้กลายมาเป็นเมนูเด็ดของทางร้านคือ เมนู “ปลาทับทิมเผา” ที่ใช้ปลาทับทิมแบบเลี้ยงกระชั่ง โดยทางร้านคัดเลือกปลาคุณภาพและทำความสะอาดอย่างดี มาคลุกเคล้ากับเกลือสมุทรยัดไส้สมุนไพรต่างๆ และมาย่างกับถ่านกะลามะพร้าวที่มีควันน้อย ทำให้ปลาหอมน่ากินและช่วยลดเรื่องปัญหามลพิษ เสิร์ฟเป็นชุดเมี่ยงปลาเผา ราคาชุดละ 350 บาท

นอกจากมีเมนูปลาทับทิมเผาแล้ว ทางร้านก็ยังมีเมนูอาหารอีสานอื่นๆ อีกหลายหลายเมนู เช่น ส้มตำและลาบนานาชนิด ไก่ย่างขมิ้น แกงคั่วหอยขม หอยหวานเผา ให้ได้มาลองลิ้มชมรสหรือสั่งกลับไปกินหรือไปฝากคนที่บ้าน

แต่หลังจากมีการระบาดของโรคโควิด – 19 ทำให้ลูกค้าที่มากินร้านหายหน้าหายตาไปถึงครึ่งต่อครึ่ง ทำให้ทางร้านต้องมีการปรับการดำเนินงานและกลยุทธการขาย ในช่วงการระบาดระลอกแรกทางร้านเน้นการขายแบบเดลิเวอรี่ เนื่องจากมีการประกาศล็อคดาวน์ ทำให้ร้านอาหารทุกๆ ร้าน ต้องงดการให้บริการนั่งกินที่ร้าน ลูกค้าที่อยากกินอาหารอีสานจึงต้องสั่งไปกินที่บ้านเท่านั้น และด้วยทางร้านใส่ใจในเรื่องความสะอาดและความสดใหม่วัตถุดิบ จึงทำให้ลูกค้ามั่นใจที่จะสั่งเดลิเวอรี่กับทางร้านเรา ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนอาหารรสชาติตำรับอีสานแท้ๆ จะไปส่งถึงบ้านของลูกค้าแน่นอน จึงทำให้ยอดขายในช่วงนั้นไม่เงียบเหงา และสามารถกลับมาเปิดร้านได้ตามปกติหลังมีการประกาศยกเลิกการล็อคดาวน์

แต่หลังจากมีการระบาดระลอกใหม่ ที่มีสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด – 19 มีแนวโน้มร้ายแรงมากขึ้น ปละทางรัฐก็ไม่ได้มีการประกาศล็อคดาวน์เหมือนอย่างครั้งที่ผ่านมา ทำให้ร้านอาหารต่างๆ สามารถเปิดได้ตามปกติ เพียงแต่จะไม่สามารถนั่งกินที่ร้านได้หลังเวลา 21.00 น. ทำให้ยอดขายของทางร้านหอมปลาเผากลับมาลดลงอีกครั้ง เพราะในครั้งนี้มีร้านอาหารอีสานหลายๆ ร้าน ยังคงเปิดอยู่ และกลายเป็นตัวเลือกให้กับทางลูกค้า อีกทั้งแต่ละร้านก็ได้มีการหันมาทำการขายแบบเดลิเวรี่มากขึ้น จึงทำให้ทางร้านต้องปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่ด้วยการจัด “โปรโมชั่นอาหาร” เพื่อดึงดูดลูกค้าและสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้ากลับมาซื้ออีกครั้ง อาทิ โปรโมชั่นซื้อครบ 1,000 บาท สามารถแลกซื้อชุดเมี่ยงปลาเผาได้ในราคา 300 บาท จาก 350 บาท และมีการจัดโปรโมชั่นร่วมกับแอพพลิเคชั่นไรเดอร์ส่งอาหาร อีกทั้งทางร้านยังมีการเผยแพร่ข้อมูลโปรโมชั่นต่างๆ ผ่านสื่อออนไลน์ ให้ลูกค้าทั้งขาประจำและลูกค้าหน้าใหม่รู้จักกับทางร้านมากยิ่งขึ้นมากยิ่งขึ้น

แต่ถึงจะมีการปรับกลยุทธ์ในการขายแบบใหม่ แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนเลยก็คือรสชาติแซบนัวตามแบบฉบับอาหารอีสาน ที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และพร้อมเสิร์ฟส่งตรงถึงบ้านไม่ว่าลูกค้าจะสั่งที่ไหน และอีกหนึ่งสิ่งสำคัญของทางร้านก็คือความสะอาดของวัตถุดิบที่นำมาทำอาการนั้น ต้องมีคุณภาพและมีความสะอาดที่เพิ่มขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าให้เชื่อมั่นที่จะใช้บริการเดลิเวรี่สั่งอาหารอีสานกับทางร้าน “ร้านหอมปลาเผา” จึงเป็นอีกหนึ่งร้านอีสานที่เป็นตัวอย่าง ที่สามารถปรับกรยุทธ์การขายในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด – 19 ได้อย่างดี