โควิดเวฟใหม่ส่งท้ายปี เขย่าการฟื้นตัวเอเชีย

ขณะที่ปี 2020 กำลังจะปิดฉากลง นักลงทุนจำนวนมากคิดว่า เอเชียจะเป็นภูมิภาคที่มีแนวโน้มเศรษฐกิจดีที่สุดในปีหน้าเนื่องจากควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนาได้ดีกว่าพื้นที่อื่นๆ แต่หลังจากโควิดกลับมาแผลงฤทธิ์ในบางประเทศ นักวิเคราะห์บางคนเริ่มเตือนว่า ไม่ควรมองเศรษฐกิจเอเชียดีเกินไป

แม้จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันในหลายประเทศในเอเชียยังถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับยุโรปและอเมริกา แต่บางประเทศเหล่านั้นตอนนี้กำลังต่อสู้กับการระบาดรอบใหม่ที่เลวร้ายกว่าเมื่อต้นปีมาก ไม่เว้นแม้แต่ไต้หวันที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการควบคุมไวรัส แต่สัปดาห์ที่แล้วกลับพบการติดเชื้อในท้องถิ่นเคสแรกนับจากวันที่ 12 เมษายน ตอกย้ำความยากลำบากของนานาชาติในการเอาชนะโควิด-19

ก่อนหน้านี้ทางการไต้หวันคาดว่า เศรษฐกิจปี 2020 จะขยายตัวถึง 2.5% ซึ่งหลิน จูเจีย นักเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งชาติเจิ้งจื้อในกรุงไทเป บอกว่า อาจเป็นอัตราเติบโตสูงที่สุดในโลก และหากเป็นจริง จะเป็นครั้งแรกที่เศรษฐกิจแดนมังกรน้อยโตเร็วกว่าจีน ซึ่งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประเมินไว้ที่ 1.9% เทียบกับเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มติดลบ 4.4% และต่อไปนี้คือบางชาติในเอเชียที่ต้องเผชิญการระบาดระลอกใหม่ และผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ

ญี่ปุ่น
จำนวนเคสใหม่รายวันในแดนปลาดิบเริ่มไต่ขึ้นในเดือนพฤศจิกายน สัปดาห์ที่แล้วพุ่งทะลุ 3,000 คนเป็นครั้งแรก ทั้งนี้ จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ของอเมริกา

บุคลากรทางการแพทย์ในญี่ปุ่นเตือนว่า โรงพยาบาลต่างๆ ต้องแบกรับภาระหนักอึ้ง กระนั้น นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ยังไม่ยอมประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ แต่บอกว่า จะระงับโครงการอุดหนุนการท่องเที่ยวในท้องถิ่นเพื่อชะลอการระบาด กระทั่งเมื่อวันเสาร์ (26) รัฐบาลจึงมีคำสั่งเพิ่มเติมงดรับนักเดินทางต่างชาติ หลังพบผู้ติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์ครั้งแรกโดยเป็นนักเดินทางจากอังกฤษ

นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทวิจัย แพนทีออน แมกโครอิโคโนมิกส์ ระบุในรายงานที่ออกมาเมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้วว่า กฎการเว้นระยะห่างทางสังคมของญี่ปุ่นที่ค่อนข้างอ่อนดูเหมือนไม่ได้ผลและอาจกดดันให้รัฐบาลต้องยกระดับมาตรการเข้มข้นขึ้นในอีกไม่นานนี้ ซึ่งเป็นไปได้ว่า อาจมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศครั้งใหม่ในช่วงไตรมาสแรกปีหน้า

เกาหลีใต้
เช่นเดียวกับญี่ปุ่น เคสใหม่รายวันของเกาหลีใต้ในเดือนธันวาคมพุ่งขึ้นเกิน 1,000 คนเป็นครั้งแรกนับจากโควิดระบาด แต่ที่ไม่เหมือนญี่ปุ่นคือ รัฐบาลแดนกิมจิใช้ไม้แข็งจัดการไวรัสในการระบาดระลอกใหม่

วันอังคาร (22) ทางการเกาหลีใต้ประกาศห้ามการรวมกลุ่มเกิน 5 คนทั่วประเทศ และสั่งปิดแหล่งท่องเที่ยว เช่น ลานสกี และสถานที่เล่นกีฬาฤดูหนาวอื่นๆ นอกจากนั้นเมื่อวันอาทิตย์ (27) รัฐบาลยังเผยว่า จะขยายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมออกไปจนถึงต้นเดือนมกราคม ซึ่งแพนทีออนมองว่า จะช่วยจำกัดความเสียหายทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสส่งท้ายปีได้เป็นอย่างมาก

มาเลเซีย
ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้สามารถควบคุมให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลงในช่วงแรก ก่อนที่ไวรัสจะกลับมาระบาดรอบใหม่ในเดือนตุลาคม ทำให้รัฐบาลต้องบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์บางอย่างในบางพื้นที่

นักวิเคราะห์ของบริษัทที่ปรึกษา แคปิตอล อิโคโนมิกส์ มองแนวโน้มเศรษฐกิจมาเลเซียในไตรมาสสุดท้ายของปี 2020 “คึกคักน้อยลง” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนการบริโภคของภาคเอกชน เนื่องจากการระบาดระลอกสองและการฟื้นมาตรการจำกัดหลายอย่าง เช่น การเว้นระยะห่างทางสังคม

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจภาคส่วนอื่น เช่น การส่งออก ยังคงมีผลงานที่ดี ดังนั้น ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมจากการระบาดระลอกล่าสุดมีแนวโน้ม “เบากว่า” ระลอกแรกมาก