บ.ยักษ์แข่งเดือดตลาด“ซื้อก่อนผ่อนได้” ปักหมุดจับลูกค้าเงินไม่พร้อมแต่ใจพร้อม

กลยุทธ์ “ซื้อก่อน ผ่อนทีหลัง” ที่มีมาเป็นสิบปีกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ผู้ค้าออนไลน์ ผู้ให้บริการชำระเงิน บริษัทฟินเทค หรือแม้แต่ผู้ผลิตสินค้าเอง และไม่ได้จำกัดเฉพาะสินค้ารายการใหญ่เท่านั้น แต่เป็นผลิตภัณฑ์ราคาแค่หลักร้อย กลุ่มเป้าหมายสำคัญคือวัยผู้ใหญ่ตอนต้นที่อยากซื้อของแต่ยังไม่มีเงิน ซื้อของที่ไม่อยู่ในงบ หรือไม่อยากจ่ายดอกเบี้ยบัตรเครดิต โดยมีไมโครซอฟท์รับประกันความฮอตฮิตด้วยการไฟเขียวให้ลูกค้าผ่อนจ่ายเอ็กซ์บ็อกซ์รุ่นใหม่ราคาแค่เฉียด 500 เหรียญ

เท็ด รอสส์แมน นักวิเคราะห์ของ CreditCards.com บอกว่า เป้าหมายของบริการผ่อนชำระเหล่านี้คือ วัยผู้ใหญ่ตอนต้น โดยเฉพาะกลุ่มที่อยากซื้อของแต่อาจยังไม่มีเงินจ่าย แต่แล้วอยู่ๆ บริษัทใหญ่มากมายก็พร้อมใจประเคนทางเลือกในการซื้อสินค้าทุกอย่างตั้งแต่เครื่องเล่นวิดีโอเกมจนถึงผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ด้วยการผ่อนจ่ายเดือนละไม่กี่สตางค์

สินเชื่อผ่อนชำระแบบนี้ว่าที่จริงมีมาเป็นสิบปี แต่ที่ผ่านมามักครอบคลุมเฉพาะสินค้ารายการใหญ่ๆ อย่างเช่น เฟอร์นิเจอร์ ทว่า ตอนนี้บรรดาผู้ให้บริการการชำระเงินออนไลน์และบริษัทเทคโนโลยีการเงิน (ฟินเทค) กำลังเร่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์การเงิน “ซื้อก่อนผ่อนทีหลัง” สำหรับสินค้าออนไลน์ราคาแค่หลักร้อย

สัปดาห์ที่แล้ว ไมโครซอฟท์ไฟเขียวให้ลูกค้าผ่อนจ่ายรายเดือนสำหรับเอ็กซ์บ็อกซ์รุ่นใหม่ราคา 499 ดอลลาร์ผ่านซิติเซนส์ แบงก์ในอเมริกา และคลาร์นา บริษัทฟินเทคในสหราชอาณาจักร

ก่อนหน้านั้นหนึ่งสัปดาห์ เพย์พาลเปิดตัวผลิตภัณฑ์การชำระเงินแบบผ่อน เช่นเดียวกับมาสเตอร์การ์ดและไฟเซิร์ฟที่ต่างเผยโฉมพันธมิตรใหม่เพื่อขยายออปชั่นการผ่อนชำระ

อเมริกัน เอ็กซ์เพรส, ซิตี้ และเจ.พี. มอร์แกน เชส นำเสนอผลิตภัณฑ์คล้ายกันนี้เช่นเดียวกัน

แอฟเฟิร์มคือหนึ่งในสตาร์ทอัพที่โตเร็วมากในตลาดนี้ โดยเมื่อต้นปีเพิ่งประกาศเป็นพันธมิตรกับช้อปปิฟาย และทำงานร่วมกับผู้ค้า 6,000 แห่ง ซึ่งรวมถึงเพโลตัน, เอ็กซ์พีเดีย และวอลมาร์ท เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สตาร์ทอัพแห่งนี้เผยว่า มีลูกค้าเพิ่มเป็น 5.6 ล้านคน จาก 3 ล้านคนเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว

แอฟเฟิร์มบอกกับซีเอ็นบีซีว่า ช่วงเดือนมีนาคมที่คนจำนวนมากต้องกักตัวอยู่บ้าน อุปกรณ์ออกกำลังกายขายกระฉูดถึง 163%, โฮมออฟฟิศเพิ่มขึ้น 200% และอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัว 70%

ทั้งนี้ ผลศึกษาจากแอสเซนต์ที่ออกมาในช่วงฤดูร้อนนี้พบว่า ผู้บริโภคอเมริกัน 1 ใน 3 ใช้บริการ “ซื้อก่อน ผ่อนทีหลัง” โดยส่วนใหญ่ต้องการหลีกเลี่ยงการจ่ายดอกเบี้ยบัตรเครดิตหรือซื้อของที่ไม่ได้อยู่ในงบ

อย่างไรก็ตาม แม้สินเชื่อ ณ จุดขายช่วยให้ผู้บริโภคซื้อของได้มากขึ้นและบ่อยครั้งขึ้นโดยไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ที่สุดแล้วบริษัทต่างๆ อาจชาร์จดอกเบี้ยในภายหลัง ซึ่งรวมถึงค่าธรรมเนียมการจ่ายล่าช้าหรือค่าธรรมเนียมการดำเนินการ และอาจหักเปอร์เซ็นต์จากราคาสินค้าเช่นเดียวกับผู้ออกบัตรเครดิต

นอกจากนั้นการที่สามารถสมัครใช้บริการได้อย่างง่ายดายและความที่กำลังเป็นที่นิยม ยังอาจทำให้ผู้ใช้ละเลยเงื่อนไขตัวเล็กจิ๋วที่ด้านท้ายข้อตกลงทางการเงินเหล่านี้

ในบรรดาผู้ตอบแบบสอบถามของแอสเซนต์มีแค่ 22% ที่มั่นใจว่า เข้าใจข้อกำหนดและเงื่อนไขในการใช้บริการการผ่อนจ่ายทั้งหมด ขณะที่ 49% บอกว่า ไม่ใช้บริการเหล่านี้เพราะไม่เข้าใจกลไกการทำงาน