xs
xsm
sm
md
lg

IRPC วางเป้าปี 68 ฟัน EBITDA 2 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ไออาร์พีซีวางเป้าหมายปี 68 มี EBITDA กลับมาแตะระดับสูงสุดที่ 2 หมื่นล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่ามี EBITDA ใกล้เคียงปี 62 ระดับ 5.9 พันล้านบาท แย้มไตรมาส 2 นี้ฟื้นตัวดีขึ้น เหตุ GIM ปรับตัวสูงขึ้นแตะ 8-9 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และขาดทุนสต๊อกน้ำมันลดลง

นายนพดล ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายสร้างความเข้มแข็งให้แก่องค์กรภายใต้กลยุทธ์ Strengthen IRPC โดยวางเป้าหมายว่าในปี 2568 บริษัทฯ จะมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและภาษี (EBITDA) กลับมาแตะระดับสูงสุด 2 หมื่นล้านบาทอีกครั้ง หลังจากที่เคยทำได้แล้วเมื่อปี 2560 และวางเป้าระยะยาวจะมี EBITDA ในปี 2573 อยู่ที่ระดับ 3 หมื่นล้านบาท โดยปีนี้บริษัทฯ คาดว่าจะมี EBITDA ใกล้เคียงปีที่แล้วอยู่ที่ 5.94 พันล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2563 ปรับตัวดีขึ้น โดย Market GIM อยู่ที่ 8-9 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2563 ที่มี GIM เฉลี่ย 6.8 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เป็นผลจากสเปรดปิโตรเคมีที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นและได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบพรีเมียมที่มีราคาปรับลดลงในช่วง เม.ย.-พ.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้งไตรมาสนี้จะบันทึกขาดทุนสต๊อกผลิตภัณฑ์ดีขึ้น จากไตรมาสแรกปีนี้ที่ขาดทุนสต๊อกฯ ถึง 7.54 พันล้านบาท ทำให้ไตรมาส 2 นี้บริษัทฯ มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและภาษี (EBITDA) เป็นไม่ติดลบ จากไตรมาส 1/2563 มี EBITDA ติดลบ 6.44 พันล้านบาท

นายนพดลกล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ เน้นเพิ่มสินค้าเกรดพิเศษ (specialty products) ทั้งในส่วนของธุรกิจปิโตรเลียมและปิโตรเคมี การเพิ่มช่องทางการจำหน่าย การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสต๊อก การลดต้นทุนต่างๆ โดยใช้เงินทุนในช่วง 4 ปีนี้ (2563-2566) ประมาณ 2.18 พันล้านบาท ซึ่งจะสร้างผลประโยชน์ได้ราว 4.6 พันล้านบาทเมื่อสิ้นสุดโครงการ โดยปีนี้จะได้ผลประโยชน์ราว 1.9 พันล้านบาท

ปัจจุบันบริษัทมีการผลิตสินค้ามูลค่าเพิ่ม (HVA) สำหรับผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ในสัดส่วน 55% และสินค้ากลุ่ม Commodity 45% โดยในส่วนของ HVA แบ่งเป็น กลุ่มสินค้า Commodity Plus ซึ่งมีราคาสูงว่าสินค้า Commodity ราว 1% และกลุ่มสินค้า Specialty ในสัดส่วน 13% มีเป้าหมายจะเพิ่มเป็น 30% ในปี 67 ซึ่งสินค้ากลุ่ม Specialty มีราคาสูงกว่าสินค้าประเภท commodity ราว 10% โดยกลุ่มสินค้าดังกล่าวจะเน้นไปที่กลุ่มเครื่องมือแพทย์ และ Ultra High Molecular Weight Polyethylene (UHMW-PE) เม็ดพลาสติกความหนาแน่นมากกว่าโพลิเอทินลีนทั่วไป 10 เท่า ซึ่งสามารถใช้งานได้หลากหลาย บริษัทมีโครงการสร้างผลประโยชน์ 4,600 ล้านบาท

ในปีนี้บริษัทมีแผนจะออกหุ้นกู้ประมาณ 5,000-10,000 ล้านบาทเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและคืนหนี้เงินกู้ เนื่องจากปีนี้บริษัทมีหนี้ที่ครบกำหนดชำระประมาณ 6,000 ล้านบาท โดยบริษัทมีเงินสดในมือราว 1.2 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 1/2563
กำลังโหลดความคิดเห็น