xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรไทยแจ้งปี 62 กำไร 38,727 ล้าน เพิ่มขึ้น 0.7% รายได้ค่าฟียังชะลอ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



กสิกรไทยเผยกำไรปี 62 ที่ 3.87 หมื่นล้าน เพิ่มขึ้น 0.70% จากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น 4.21% ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยยังชะลอ และเอ็นพีแอลอยู่ระดับ 3.65% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 3.34%

น.ส.ขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK)กล่าวว่า ผลการดำเนินงานปี 2562 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ จำนวน 38,727 ล้านบาท ในขณะที่ปี 2561 มีกำไรสุทธิ จำนวน 38,459 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน จำนวน 268 ล้านบาท หรือ 0.70% โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น จำนวน 4,150 ล้านบาท หรือ 4.21% ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ดอกเบี้ยรับจากเงินให้สินเชื่อและเงินลงทุน ทำให้อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin : NIM) อยู่ที่ระดับ 3.31%

นอกจากนี้ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น จำนวน 858 ล้านบาท หรือ 1.51% ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากรายได้จากการจำหน่ายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น ในขณะที่รายได้สุทธิจากการรับประกันภัยลดลง รวมทั้งการยกเลิกค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่านช่องทางดิจิทัล ขณะที่ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ เพิ่มขึ้น จำนวน 4,381 ล้านบาท หรือ 6.41% หลักๆ เกิดจากกิจกรรมประชาสัมพันธ์สร้างแบรนด์ และกิจกรรมทางการตลาด ซึ่งสอดคล้องต่อยุทธศาสตร์ทางธุรกิจของธนาคาร ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to income ratio) อยู่ที่ระดับ 45.32% ทั้งนี้ ธนาคารมีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบเพื่อให้สอดคล้องต่อความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง

ส่วนผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 4 ปี 2562 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2562 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ จำนวน 8,802 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน จำนวน 1,149 ล้านบาท หรือ 11.55% โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง จำนวน 526 ล้านบาท หรือ 2.02% ทำให้อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin : NIM) อยู่ที่ระดับ 3.25% ในขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น จำนวน 385 ล้านบาท หรือ 2.44% ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากรายได้จากการจำหน่ายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น ในขณะที่รายได้สุทธิจากการรับประกันภัยลดลง อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ เพิ่มขึ้น จำนวน 3,374 ล้านบาท หรือ 18.95% ซึ่งเป็นปกติตามฤดูกาล รวมถึงกิจกรรมประชาสัมพันธ์สร้างแบรนด์ และกิจกรรมทางการตลาด โดยสอดคล้องต่อยุทธศาสตร์ทางธุรกิจของธนาคาร ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to income ratio) ในไตรมาสนี้อยู่ที่ระดับ 50.75% นอกจากนี้ ธนาคารมีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญลดลงจากไตรมาสก่อน

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ธนาคารและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวม จำนวน 3,293,889 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2561 จำนวน 138,798 ล้านบาท หรือ 4.40% ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของเงินลงทุนสุทธิ และการเติบโตของสินเชื่อ สำหรับเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPL gross) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 อยู่ที่ระดับ 3.65% ขณะที่สิ้นปี 2561 อยู่ที่ระดับ 3.34% อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 อยู่ที่ระดับ 148.60% โดยสิ้นปี 2561 อยู่ที่ระดับ 160.60% สำหรับอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทยตามหลักเกณฑ์ Basel III ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 อยู่ที่ 19.62% โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 16.19%

น.ส.ขัตติยา กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2562 ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจนนัก โดยภาคการส่งออกยังคงหดตัวลงท่ามกลางผลกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่าและสัญญาณชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก แม้ว่าสหรัฐฯ และจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าระยะที่ 1 และได้ลงนามข้อตกลงดังกล่าวในเดือนมกราคม 2563 ก็ตาม นอกจากนี้ บรรยากาศการลงทุนภาคเอกชนและรัฐบาลก็ยังคงมีทิศทางชะลอตัว ขณะที่แม้การบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง แต่ก็เริ่มชะลอลงในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลมีผลช่วยประคองกำลังซื้อในประเทศได้บางส่วนในช่วงปลายปี
กำลังโหลดความคิดเห็น