xs
xsm
sm
md
lg

ติวเตอร์เกาหลีใต้เปิดคลาสใหม่“พิชิตใจบ็อต” รับกระแสบริษัทใหญ่แห่ใช้ AI สัมภาษณ์งาน

เผยแพร่:


การสัมภาษณ์งานกับ AI “เรื่องใหม่มาก” สำหรับหนุ่มสาวเกาหลีใต้
แนวโน้มที่บริษัทชั้นนำในประเทศเริ่มปรับใช้ AI ในการสัมภาษณ์ผู้สมัครงาน ทำให้โรงเรียนกวดวิชาเกาหลีใต้ที่เดิมทีมีสารพัดคลาสให้เลือกเรียนอยู่แล้ว ตั้งแต่การเตรียมพร้อมสำหรับการออดิชันเพื่อไต่เต้าเข้าสู่วงการเค-ป๊อป ไปจนถึงการทำข้อตกลงในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ต้องปรับตัวให้ทันยุคสมัยด้วยการนำเสนอคลาสใหม่ถอดด้ามว่าด้วยกลยุทธ์พิชิตใจบ็อต

จากออฟฟิศที่อยู่ชั้นล่างสุดของอาคารในย่านกวางนัม พัค ซอง-จุง เป็นหนึ่งในที่ปรึกษาด้านอาชีพที่ธุรกิจกำลังรุ่งจากการนำเสนอบทเรียนเพื่อรับมือการคัดกรองบุคลากรเข้าทำงานด้วยคอมพิวเตอร์แทนการใช้คน ซึ่งเขาบอกว่า ประเด็นหลักคือการสัมภาษณ์ผ่านวิดีโอจะใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าเพื่อวิเคราะห์บุคลิกลักษณะของผู้เข้าสัมภาษณ์

“อย่าแค่ฉีกปากยิ้ม แต่ตาต้องยิ้มด้วย” พัคบอกเหล่าลูกศิษย์ที่เตรียมออกหางานทำ

แม้คลาสสอนการรับมือการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการจ้างงาน ซึ่งขณะนี้กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มกิจการขนาดใหญ่ของเกาหลีใต้ เช่น เอสเค อินโนเวชัน และฮุนได เอ็นจิเนียริง แอนด์ คอนสตรักชัน ยังคงเป็นแค่เซ็กชันเล็กๆ ในอุตสาหกรรมโรงเรียนกวดวิชาของประเทศนี้ที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ แต่พีเพิล แอนด์ พีเพิล บริษัทที่ปรึกษาของพัค เชื่อมั่นว่า เซ็กชันนี้มีแววเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยพีเพิล แอนด์ พีเพิลนั้นเสนอแพ็คเกจการอบรม 3 ชั่วโมง สนนราคาสูงสุด 86.26 ดอลลาร์

ความเชื่อมั่นของพัคมาจากการคาดการณ์ว่า มีนักเรียนถึง 80% ที่เรียนโรงเรียนกวดวิชา ประกอบกับการที่หนุ่มสาวเกือบ 1 ใน 4 ยังคงไม่มีงานทำ ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงานสถิติเกาหลีใต้ ซึ่งสองปัจจัยนี้คือแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้โรงเรียนกวดวิชาในเกาหลีใต้ได้รับความนิยมชนิดที่ไม่มีประเทศไหนเทียบเท่า ยกเว้นญี่ปุ่น

ยู วาน-แจ วัย 26 ปี ที่กำลังหางานทำในอุตสาหกรรมบริการต้อนรับ บอกว่า AI ไม่ได้ถามคำถามส่วนตัวแบบคนปกติทั่วไป และทำให้รู้สึกอึดอัด เขาจึงตัดสินใจไปสมัครคลาสการสัมภาษณ์งานกับ AI ในย่านนอร์ยางจิน ซึ่งเป็นดงโรงเรียนกวดวิชาที่รู้จักกันในชื่อ “หมู่บ้านการสอบ”

ปัจจุบัน ธุรกิจรอบโลกกำลังทดลองใช้เทคนิคล้ำสมัยต่างๆ ของ AI เพื่อคัดกรองผู้สมัครงาน

ลี ซู-ยอง ผู้อำนวยการสถาบัน AI ของสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงแห่งเกาหลี (KAIST) ขานรับว่า เทคโนโลยีใหม่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในเกาหลีใต้ ซึ่งบริษัทขนาดใหญ่มีอิทธิพลอย่างมากในตลาดงานที่ตึงตัวอยู่แล้ว

จากข้อมูลของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจแห่งเกาหลี (KERI) เกือบ 25% ของบริษัทชั้นนำ 131 แห่งในเกาหลีใต้ใช้หรือมีแผนใช้ AI ในการจ้างงาน

ตัวอย่างเช่น ระบบวิดีโอ AI ระบบหนึ่งขอให้ผู้สมัครแนะนำตัวเอง ซึ่งในระหว่างนั้นระบบจะตรวจจับการแสดงอารมณ์บนใบหน้า ซึ่งรวมถึง “ความกลัว” และ “ความร่าเริง” รวมทั้งวิเคราะห์การเลือกใช้คำ จากนั้นจึงถามคำถามตอบยาก เช่น “คุณอยู่ระหว่างการเดินทางไปติดต่อธุรกิจกับเจ้านาย และคุณเห็นเจ้านายใช้บัตรเครดิตของบริษัทซื้อของขวัญให้ตัวเอง คุณจะพูดกับเขาอย่างไร”

ระบบคัดกรองผู้สมัครด้วย AI ยังใช้ gamification (การนำองค์ประกอบต่างๆ ในเกมมาประยุกต์ใช้กับสิ่งอื่น) เพื่อตรวจวัดบุคลิกภาพและความสามารถในการปรับตัวของผู้สมัครด้วยการให้ทำแบบทดสอบต่างๆ

คริส จุง ผู้จัดการบริษัทซอฟต์แวร์ ไมดาส ไอที ในพันกโย (Pangyo) หรือซิลิคอนแวลลีย์ของเกาหลีใต้ บอกว่า gamification ช่วยให้นายจ้างสามารถตรวจสอบความสามารถ 37 อย่างของผู้สมัคร รวมทั้งความเหมาะสมสำหรับตำแหน่งงานที่เปิดรับ

เขาสำทับว่า การเตรียมตัวสำหรับการทดสอบไม่เกี่ยวข้องกับการท่องจำคำตอบเสมอไป เพราะบางเกมไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง ทว่า เป้าหมายที่แท้จริงคือการดูว่า ผู้สมัครมีทัศนคติและไหวพริบอย่างไรในการแก้ปัญหา

ที่พีเพิล แอนด์ พีเพิล พัคเล่าว่า ปีที่แล้วเขาพูดคุยเรื่องการคัดกรองผู้สมัครงานด้วยระบบ AI กับนักศึกษา บัณฑิต รวมถึงอาจารย์มหาวิทยาลัยกว่า 700 คน

“นักศึกษามากมายมีปัญหาในการสอบสัมภาษณ์กับ AI และเป้าหมายของผมคือการช่วยให้พวกเขาเตรียมตัวให้พร้อมอย่างเต็มที่เพื่อรับมือกับสิ่งที่จะต้องพบ”

ในห้องแชตออนไลน์ที่พัคดูแลอยู่ซึ่งมีสมาชิกกว่า 600 คน มีหลายข้อความที่ขอบคุณสำหรับคลาสของพัค บางข้อความกล่าวถึงความสำเร็จในการสัมภาษณ์งานกับ AI

ข้อความเหล่านั้นตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับสถานการณ์ของคิม ซ็อก-วู นักศึกษาวัย 22 ปีที่สอบสัมภาษณ์งานกับ AI ไม่ผ่านสำหรับตำแหน่งการจัดการในบริษัทค้าปลีกแห่งหนึ่ง และเขาตัดสินใจเรียนต่อแทนที่จะลองหางานใหม่

คิมที่ไม่เคยผ่านคลาสการสัมภาษณ์กับ AI มาก่อน บอกว่า เขาคงหมดหวังถ้าทุกบริษัทใช้เทคโนโลยีนี้รับสมัครงาน

“การสัมภาษณ์งานกับ AI เป็นเรื่องที่ยังใหม่อยู่มาก ผู้สมัครหลายคนจึงไม่รู้ว่า ควรเตรียมตัวอย่างไร ที่สำคัญการเตรียมตัวยังดูเหมือนไม่มีความหมายเลย เพราะ AI จะอ่านการแสดงออกบนใบหน้าเพื่อดูว่า เราโกหกอะไรหรือเปล่า”
กำลังโหลดความคิดเห็น