xs
xsm
sm
md
lg

“ชิมช้อปใช้” เงินสะพัดเฉียดหมื่นล้าน หยุดยาว 3 วัน พุ่งเกือบ 2 พันล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


ยอดใช้จ่าย “ชิมช้อปใช้” สะพัดกว่า 8,000 ล้านบาท ช่วงวันหยุดยาว 3 วัน ใช้จ่ายเกือบ 2,000 ล้านบาท เชียงใหม่และเชียงรายคึกคัก ด้าน ก.คลัง ขอบคุณโมเดิร์นเทรดและร้านสะดวกซื้อให้ความร่วมมืองดจัดโปรโมชันดึงลูกค้า

นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวว่า จากการจัดเก็บข้อมูลในช่วงวันหยุดเทศกาลวันออกพรรษายาว 3 วันที่ผ่านมา (12-14 ต.ค.) พบว่า มีประชาชนเดินทางออกไปใช้จ่ายในโครงการชิมช้อปใช้จำนวนมาก ทำให้ร้านอาหารและร้านค้ารายย่อยโดยเฉพาะต่างจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ มียอดการใช้จ่ายอย่างคึกคัก ส่งผลให้เม็ดเงินสะพัดออกสู่ต่างจังหวัดตรงตามวัตถุประสงค์ของโครงการ เช่น ภาคเหนือและภาคกลางตอนบน ทั้งเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน และเพชรบูรณ์ ประชาชนต่างพากันเดินทางไปท่องเที่ยวและใช้เงินจำนวนมาก

นายชาญกฤช กล่าวว่า รัฐบาลถือว่าเป็นความสำเร็จในการจุดประกายให้เกิดสังคมไร้เงินสดเป็นวงกว้าง เป็นการสร้างฐานผู้ใช้ e-wallet หรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่สร้างยอดผู้ใช้ได้เป็น 10 ล้านคนในคราวเดียว พ่อค้า แม่ค้า คนสูงวัย ประชาชนในต่างจังหวัด ร้านค้าที่ไม่ใช่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ประชาชนจะคุ้นเคยและเห็นแล้วว่าเพิ่มโอกาสให้ได้ บางร้านเล็กๆ ขายผักในตลาดมีเงินเพิ่มจากช่องทางนี้ สำหรับคนค้าขายรายย่อยคือกำลังใจและโอกาส

สำหรับเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว 3 วัน (12-14 ต.ค.) มียอดการใช้จ่าย 1,842 ล้านบาท ตัวเลขการใช้จ่ายรวมตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน-14 ตุลาคม 2562 มียอดการใช้จ่ายทั้งสิ้น 8,071.1 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดจากกระเป๋า 1 จำนวน 7,967 ล้านบาท จากกระเป๋า 2 จำนวน 104 ล้านบาท แบ่งเป็นร้านชิม 741.2 ล้านบาท ร้านช้อป 3,242.7 ล้านบาท ร้านใช้ 72.6 ล้านบาท และร้านค้าทั่วไป 1,578.3 ล้านบาท ส่วนผู้ไปใช้สิทธิ 8,328,931 คน ผู้ที่ยังไม่ไปใช้สิทธิ 1,671,395 คน สำหรับจังหวัดที่มีผู้ไปใช้สิทธิมากที่สุดอันดับที่ 1 กรุงเทพฯ 1,046.7 ล้านบาท 2.ชลบุรี 521.4 ล้านบาท และ 3.สมุทรปราการ 344.7 ล้านบาท ส่วนเชียงใหม่เพิ่มเป็น 182.3 ล้านบาท และเชียงราย 79.7 ล้านบาท

“ขอชื่นชมและขอบคุณผู้ประกอบการร้านค้า ทั้งโมเดิร์นเทรดและร้านสะดวกซื้อทุกรายที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งในการยุติการจัดโปรโมชันลดแลกแจกแถมทันที หลังจากได้มีการเรียกมาชี้แจงทำความเข้าใจ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา รวมถึงปรับปรุงระบบให้บริการหน้าจุดชำระเงิน เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนใหม่ให้มีความคล่องตัวมากขึ้น โดยไม่มีเงื่อนไขที่ทำให้ประชาชนรู้สึกไม่เป็นธรรม” นายชาญกฤช กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น