xs
xsm
sm
md
lg

สัมผัสแรก “มาสด้า 3” ใหม่ ยกระดับ นิ่ง เงียบ เนี้ยบ หรู

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


มาสด้า 3 ถือเป็นหนึ่งในโมเดลที่มาสด้าภาคภูมิใจในการทำตลาดมาอย่างยาวนาน ซึ่งในตลาดเมืองไทยนั้น 3 เจเนอเรชันแล้วที่เข้ามาทำตลาด ซึ่งในปีนี้มาสด้า มีแผนเปิดตัวโฉมใหม่ล่าสุด เจเนอเรชันที่ 4 ในช่วงปลายเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ และเพื่อเป็นการอุ่นเครื่องกันก่อน ทีมงานมาสด้าจึงได้จัดงาน มาสด้า 3 Sneak Preview ขึ้น และทีมงาน “เอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง” ไม่พลาดที่จะเก็บข้อมูลมาฝากกัน

อัปเกรดเครื่องยนต์ คงKodo Design

ในส่วนของการออกแบบตัวถังนั้น มีการปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งคัน แต่ยังคงแนวคิด Kodo Design เอาไว้เหมือนเช่นเคย ดังนั้น ภาพรวมอาจจะดูคล้ายรุ่นก่อนหน้าและคล้ายกับรุ่นอื่นๆ ของมาสด้า จึงต้องทำใจ เพราะเป็นผลมาจากองค์รวมของปรัชญาการดีไซน์ ซึ่งน่าจะถูกใจคนที่ชอบแนวนี้

อย่างไรก็ตาม มิติตัวถังโดยรวมแทบไม่แตกต่างจากรุ่นเดิม แต่ทว่าเมื่อดูรูปทรงจะทราบทันทีว่าแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้า การไม่มีไฟตัดหมอก หรือไฟท้ายที่ดีไซน์ใหม่ ขณะที่ความสูงโดยรวมนั้นเตี้ยลงกว่าเดิมราว 20 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อยาวกว่าเดิม 25 มิลลิเมตร และความกว้างช่วงล้อ กว้างกว่าเดิม หน้า 15 มิลลิเมตร หลัง 20 มิลลิเมตร




โครงสร้างตัวถังภายในมีการปรับใหม่ ลดจำนวนรูที่เจาะตัวถังให้น้อยที่สุด ช่วยให้เสียงดังรบกวนเข้ามาได้น้อยลง พร้อมกับเพิ่มจุดลดเสียงสะท้อนของโครงสร้างตัวถังส่วนต่างๆ และเสริมวัสดุดูดซับเสียงและฉนวนที่ตัวถังมากขึ้น

การออกแบบภายในห้องโดยสาร คำนึงถึงแนวคิดในการใช้งานที่เป็นมิตรต่อสรีระร่างกายมนุษย์ ทั้งเบาะนั่งที่ออกแบบใหม่ การปรับตำแหน่งของอุปกรณ์ต่างๆ ให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกและง่ายขึ้นกว่าเดิม รวมถึงการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพดีขึ้นอย่างชนิดที่จับแล้วรู้สึกได้ทันที เครื่องเสียงย้ายตำแหน่งที่ติดตั้งโดยคำนึงถึงทิศทางของเสียง และวางในตำแหน่งใหม่ให้สอดคล้องตามหลักอะคูสติก โดยมีลำโพงมากสุดถึง 12 ตำแหน่ง จาก BOSE (รุ่นมาตรฐานลำโพง 8 จุด)

สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv G ขนาด 2.0 ลิตร ตัวเดิม แต่ได้รับการอัปเกรดขึ้น ปรับปรุงแรงบิดมากกว่าเดิม ลดปริมาณไอเสียให้น้อยลง ส่วนพิกัดกำลังและสเปกต่างๆ ยังไม่มีการเปิดเผยในเวลานี้










ขับเทียบรุ่นเดิม เงียบขึ้นชัดเจน

การทดลองขับในครั้งนี้ เลือกใช้สนามทดสอบและศูนย์วิจัยของยางรถยนต์โยโกฮามา ซึ่งเป็นยี่ห้อของยางติดรถมาสด้า 3 โฉมใหม่ที่เรากำลังจะขับ โดยเป็นรุ่นยอดนิยมอย่าง Advan Db ขนาด 215/45 R18

เริ่มต้นด้วยการจำลองการขับทางคดโค้งถนนเรียบด้วยความเร็วสลับไปมาระหว่าง 30-70 กม./ชม. เพื่อดูแรงเหวี่ยงและความเงียบ ถัดมาเป็นการขับแบบสลาลมพร้อมการเบรกที่ความเร็ว 100 กม./ชม. โดยเป็นการขับเปรียบเทียบกับ มาสด้า 3 รุ่นปัจจุบันที่จำหน่ายอยู่ แบบลงสลับทันทีคันต่อคัน ผลลัพธ์คือ มาสด้า 3 ใหม่ ชนะเลิศในทุกหัวข้อ











ความเงียบภายในห้องโดยสาร นับว่าเป็นสิ่งที่โดดเด่นที่สุดของมาสด้า 3 ใหม่ เสียงดังของเครื่องยนต์เมื่อเทียบกับรุ่นเก่าแล้ว ตัวใหม่แทบจะไม่ได้ยินเสียง จนกระทั่งกดคันเร่งแบบหนักเท้ารอบเครื่องทะลุเกิน 4,000 รอบขึ้นไปจึงจะได้ยินเสียงเครื่องยนต์คำราม ในลักษณะที่ฟังแล้วเป็นผู้ดีอย่างมาก

เสียงของยางบดถนนนั้นก็เงียบไม่น้อยหน้าเครื่องยนต์ จนทำให้เราต้องลงมาดูเปรียบเทียบยางของรถทั้งรุ่นเก่าและโฉมใหม่ว่ามีอะไรแตกต่างกันบ้าง รุ่นเก่าเป็นยางอีกยี่ห้อหนึ่ง แม้ดอกยางจะยังคงดีอยู่ แต่ด้วยความที่เป็นยางผ่านการใช้งานมาตามเลขไมล์คือกว่า 26,000 กิโลเมตร และปีที่ผลิตคือ 2017 ดังนั้นจึงเป็นข้อเสียเปรียบอยู่บ้าง

โดยส่วนตัวของผู้เขียนเองเคยใช้ยางยี่ห้อดังกล่าวมาแล้ว พบว่าเมื่อใช้งานเกิน 10,000 กิโลเมตร ยางยี่ห้อนั้นจะเสื่อมสมรรถนะลงอย่างรวดเร็ว ทั้งแข็งและดังขึ้นแบบน่าผิดหวัง




อัตราเร่งได้ลองเพียงเล็กน้อย ไม่สามารถฟันธงได้ ส่วนการโคลงตัวของรถนั้น น้อยลงอย่างชัดเจน ส่วนการเบรกรู้สึกมั่นใจขึ้นกว่าเดิม ยิ่งเมื่อขับเปรียบเทียบกันแบบนี้ ไม่ต้องสงสัยในความรู้สึกแต่ประการใด ทั้งหมดเป็นผลมาจากการปรับปรุงช่วงล่างด้านหลังใหม่ หันมาใช้ระบบทอร์ชันบีม

อีกสิ่งหนึ่งที่ถือว่าประทับใจผู้เขียนและผู้ร่วมทดลองขับในคราวนี้เป็นอย่างมาก คือ การตกแต่งภายในห้องโดยสารที่สามารถออกแบบมาได้อย่างสวยงามและดูหรูหรา จนใครหลายคนมองว่าไม่น้อยหน้ารถแบรนด์ยุโรป รวมถึงคุณภาพของวัสดุที่นำมาใช้ ผิวสัมผัสเกรดดีเยี่ยม ทั้งหนังแท้และวัสดุผสม ให้ความรู้สึกว่าตั้งใจทำและมีความประณีตมากๆ






หน้าจอที่คอนโซลกลางปรับใหม่ให้ใช้งานง่ายขึ้น หน้าปัดเป็นแบบผสมผสานระหว่างอนาล็อกและจอดิจิตอลแบบ TFT ส่วนคอนโซลกลาง เปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ขยายที่วางแขนให้ใหญ่ขึ้น ย้ายตำแหน่งของที่วางแก้วมาอยู่ทางด้านหน้า มีช่องเสียบ USB 2 จุด ขณะที่ปุ่มปรับแอร์ออกแบบตามสไตล์เปียโนและกลมกลืนไปกับคอนโซลหน้า

เบาะนั่งทางด้านหลังสามารถพับได้แบบ 60-40 และในรุ่นซีดานสามารถเปิดจากทางด้านฝากระโปรงได้ด้วยปุ่มคันโยกเล็กๆ สะดวกในการใช้งาน และช่วยเพิ่มพื้นที่ในการเก็บสัมภาระได้มากขึ้น กุญแจมีการปรับเปลี่ยนยกเลิกช่องเสียบกุญแจไม่ว่าจะเป็นที่คอพวงมาลัยหรือที่มือจับประตู จะใช้ระบบกุญแจรีโมทเพียงอย่างเดียว







ทั้งนี้ โดยภาพรวมแล้ว มาสด้า3 ใหม่ ถือว่าพัฒนาขึ้นมาได้อย่างน่าประทับใจ แต่ด้วยตลาดของรถพิกัดนี้ยอดขายไม่สูงมากนัก ดังนั้น หากจะหวังยอดขายแบบถล่มทลาย มาสด้าทำใจไว้แล้วว่าคงเป็นไปได้ยาก ขอสัดส่วนการขายที่เพิ่มขึ้นจากเดิมราว 10-15% เป็นที่น่าพึงพอใจแล้ว

ส่วนจะเหมาะกับใครนั้น ขออนุญาตรอทราบราคาก่อน ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องรอการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ และการทดสอบอย่างเต็มรูปแบบที่จะตามมาอย่างต่อเนื่อง แล้วเราถึงจะมาฟันธงอีกครั้งหนึ่ง





















กำลังโหลดความคิดเห็น