“ปลัดคมนาคม” ถกคณะทำงานแก้ปัญหาข้อพิพาทสัมปทานทางด่วน เรียกประธานบอร์ดและผู้บริหาร กทพ.ชี้แจง เร่งสรุปข้อมูลรายงาน “ศักดิ์สยาม” 27 ส.ค.นี้
เมื่อวันที่ 9 ส.ค. นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้เป็นประธานการประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาข้อพิพาทสัมปทานทางด่วนระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กับบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และบริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด หรือ NECL นัดแรก โดยคณะทำงานฯ ประกอบด้วย นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองปลัดกระทรวงคมนาคม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง) นายสุรงค์ บูลกุล ประธานกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) นายสุทธิศักดิ์ วรรธนวินิจ รองผู้ว่าการฝ่ายกฎหมายและกรรมสิทธิ์ที่ดิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) นายชยธรรม์ พรหมศร รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)
นายชัยวัฒน์กล่าวว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงนามคำสั่งกระทรวงคมนาคมที่ 231/2562 เรื่องแต่งตั้งคณะทำงานฯ ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2562 ให้ทำหน้าที่ตรวจสอบปัญหาและพิจารณาแนวทางในการแก้ปัญหา พร้อมจัดทำรายงานข้อสรุปความเห็น ข้อเสนอแนะด้านต่างๆ เสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมภายใน 15 วัน
ที่ประชุมได้หารือเพื่อกำหนดแนวทางการพิจารณาของคณะทำงานฯ รวมทั้งรับฟังข้อมูลจาก กทพ.เกี่ยวกับข้อพิพาทโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 (ทางพิเศษศรีรัช รวมถึงส่วนดี) และทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด (ทางพิเศษอุดรรัถยา) ซึ่งมีประเด็นข้อพิพาทที่สำคัญคือ ผลกระทบการสร้างทางแข่งขัน กรณีรัฐก่อสร้างดอนเมืองโทลล์เวย์ส่วนต่อขยาย ช่วงอนุสรณ์สถาน-รังสิต ซึ่งกระทบต่อรายได้ของผู้รับสัมปทาน และกรณีไม่ปรับขึ้นค่าผ่านทางตามที่ระบุในสัญญา
โดยเป็น 2 สาเหตุที่ให้ผู้รับสัมปทานฟ้องร้อง กทพ. ซึ่งมีมูลค่าข้อพิพาทจาก 2 ประเด็น รวมทั้งประเด็นอื่นๆ จำนวน 137,517 ล้านบาท
กทพ.ได้นำเสนอแนวทางการเจรจากับผู้รับสัมปทานตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2561 ที่ให้ กทพ.หาแนวทางบรรเทาความเสียหายของรัฐด้วยการเจรจาต่อรอง
ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงคมนาคมได้นัดประชุมคณะทำงานฯ เพื่อหารือเพิ่มเติมอีกครั้งประมาณกลางเดือนสิงหาคมนี้ ก่อนจะสรุปความเห็นของคณะทำงานฯ รายงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 27 สิงหาคม 2562 เพื่อเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป พร้อมมอบแนวทางให้ กทพ.พิจารณาข้อมูลให้รอบด้านอย่างดีที่สุด สามารถตอบคำถามของรัฐบาลและประชาชนได้