xs
xsm
sm
md
lg

“อาเดลี” ทัวร์วัยเก๋า ตลาดยังเปิดกว้างรับสังคมผู้สูงอายุ แค่ กทม.มีกว่าล้านคน

เผยแพร่:


เรื่องการท่องเที่ยว วัยไม่ใช่อุปสรรคหากมีแรงและยังเดินไหวก็สามารถไปได้ทุกที่แต่ส่วนใหญ่ติดปัญหาเรื่องเจ้าภาพในการนำเที่ยวโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่ไม่กล้าเอ่ยปากบอกลูกหลาน เพราะล้วนมีภารกิจหน้าที่การงานซึ่งคงจะดีหากมีธุรกิจนำเที่ยวเพื่อคนวัยเก๋ามีคนดูแลเหมือนญาติสนิทลูกหลานวางใจได้จากโจทย์นี้เองทำให้อดีตพนักงานประจำในองค์กรใหญ่ระดับประเทศตัดสินใจลาออกมาเริ่มต้นธุรกิจนำเที่ยวเพื่อคนวัยเก๋า ที่ชื่อว่า “อาเดลี” (Adely Tour)




หลังได้รับแรงบันดาลใจจากคุณแม่ที่เมื่อพาไปเปิดโลกกว้างกับการท่องเที่ยวก็เห็นถึงความสุขของคนวัยนี้ ดังนั้นจึงมั่นใจว่าตลาดยังมีความต้องการในธุรกิจนี้อีกเป็นจำนวนมาก

นายกัมพล อุฬารวิริโย (โยชิ) เจ้าของธุรกิจนำเที่ยววัยเก๋าหรือกลุ่มผู้สูงอายุอาเดลี เผยว่า ธุรกิจนี้เกิดมาจากตัวเองที่สังเกตว่าเมื่อพ่อแม่อยู่ในวัยเกษียณมักจะเก็บตัวอยู่บ้านไม่มีใจที่จะออกไปไหนทำให้เกิดโรคซึมเศร้าและโดยส่วนตัวเขาก็ทำงานประจำจึงไม่ค่อยมีเวลาพาไปเที่ยวมากนักทำให้พ่อแม่อยู่บ้านเหมือนไม่มีความหวัง ในวัย 70 ปี






กระทั่งได้มีโอกาสพาไปเที่ยวญี่ปุ่นได้สัมผัสสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เคยเห็น ได้ลิ้มรสอาหารที่ไม่เคยสัมผัสทำให้ชีวิตมีสีสันขึ้นและหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดเปลี่ยนให้มารดา ขอทำตัวเองให้แข็งแรงเพื่อจะเที่ยวในวันที่ยังไหวคือการพาไปขึ้นตึกอุเมดะสกาย (Umeda Sky) ณ เมืองโอซาก้า ที่ได้เห็นวิวสูงสุดลูกหูลูกตาก็เปลี่ยนคนสิ้นหวังให้อยากมีชีวิตต่อเพื่อเปิดโลกกว้างจากการท่องเที่ยวและนั่นก็ยังเป็นการจุดประกายธุรกิจให้นายกำพลมองเห็นโอกาสทำธุรกิจท่องเที่ยวเพื่อผู้สูงอายุโดยเฉพาะขึ้น

"ผมมองว่าในเมื่อมารดาของเราในวัย 70 ปี ที่ยังมีแรงเที่ยวเมื่อได้ออกมาเห็นสิ่งใหม่ๆ ก็ทำให้มีชีวิตชีวาขึ้นไม่ต้องอยู่แต่กับบ้านซึ่งเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้า โดยถือเป็นความโชคดีของแม่ผมที่ยังมีแรงเที่ยวและได้เที่ยว ดังนั้นผมก็อยากส่งต่อความสุขนี้ให้แก่ผู้สูงอายุคนอื่นบ้างด้วยการเปิดบริษัทนำเที่ยวเพื่อผู้สูงอายุโดยเฉพาะเป็นการดูแลใส่ใจเหมือนญาติสนิทลูกหลานหายห่วงได้ซึ่งผมเชื่อว่าธุรกิจนี้จะเข้ามาช่วยเติมเต็มความต้องการด้านการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดีในยุคของ ครอบครัวเดียวที่บรรดาลูกหลานต่างทำงานประจำไม่มีเวลาพาผู้ใหญ่ในบ้านไปเที่ยวขณะที่ผู้สูงอายุก็ไม่กล้าเอ่ยปากดังนั้นธุรกิจอาเดรีจึงเข้ามาตอบโจทย์ได้ตรงจุด"





สำหรับโปรแกรมการท่องเที่ยวทางอาเดลีจะคัดสรรและจัดทริปมาให้เรียบร้อยโดยโพสต์ลงผ่านช่องทางออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์หรือไลน์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น การเที่ยวแบบวันเดียว และค้างคืนโดยจะเลือกจังหวัดที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก เช่น บุฟเฟ่ต์ปู ดูนก จังหวัดจันทบุรี , ไหว้พระเสริมบารมี จังหวัดนครนายก, ชมทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ, ดูปั้นโอ่ง จังหวัดราชบุรี และชิมทุเรียนและผลไม้เมืองร้อนจังหวัดระยอง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมี การจัดทัวร์ไปต่างประเทศ อย่างเกาหลีใต้ กับโปรแกรมเที่ยวตามรอยซีรีส์ก็ได้ใจคนวัยเก๋าไปไม่น้อย




เมื่อถามว่าการจัดทัวร์เพื่อคนวัยเก๋า มีความยากและแตกต่างจากทั่วไปอย่างไร คุณโยชิ บอกว่า ความยากคือต้องใส่ใจทุกรายละเอียดให้มากขึ้น อย่าง ที่นอน จะนอนฟูกไม่ได้ต้องเป็นเตียงเท่านั้น ส่วนผ้าปูจะต้องเป็นผ้าปูที่นอนสีขาว ขณะที่อาหาร คนวัยเก๋าจะเน้นเรื่องรสชาติจะต้องไม่เผ็ดมากรสจัดมากก็ไม่ได้ ดังนั้นเมนูหลัก คือ แกงจืด ไข่เจียว หรือบางทริป จะมีผู้ไม่รับประทานเนื้อวัว หรือเนื้อสัตว์ ก็จะต้องจัดสรรให้ดีรวมถึงต้องมีปลาแทบทุกมื้อ และที่สำคัญจะขาดไม่ได้ คือ คาราโอเกะ ที่กลุ่มคนวัยเก่าจะชื่นชอบมากและเป็นสิ่ง ที่ ขาดไม่ได้ ขณะที่การเลือกรถ จะเลือกใช้รถตู้เป็นหลัก เนื่องจากรถบัส นอกจากจะเข้าไปในสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งไม่ได้แล้ว ยังเป็นอุปสรรคในการขึ้นลงของผู้สูงอายุอีกด้วย





ขณะที่เรื่องราคาทัวร์หลายคนอาจจะคิดว่าการนำผู้สูงอายุไปท่องเที่ยวนั้นจะต้องเป็นเกรดพรีเมียม และราคาจะต้องสูงแต่เขาบอกว่า เมื่อเทียบกับราคาทั่วไปแล้ว ‘อาเดลี’ ถือว่าไม่แพง เมื่อเทียบกับการท่องเที่ยวทั่วไป แต่เชื่อว่าในเรื่องการบริการและใส่ใจในการดูแลผู้สูงอายุในทุกทริปจะคุ้มค่าเกินราคาอย่างแน่นอน






"ธุรกิจนี้ผมและภรรยา คือ คุณนิตินุช นุชนาคา หรือ อุ้ม ทำด้วยใจ ต้องมีการไปสำรวจ ทดลอง พักจริง และชิมอาหารก่อนที่จะพาลูกค้ากลุ่มผู้สูงอายุไปทุกครั้ง โดยมีใบอนุญาตด้านการทำทัวร์อย่างถูกต้อง ดังนั้นลูกหลานวางใจได้ เพราะเราอยากที่จะทำ โดยได้แรงบันดาลใจจากพ่อแม่ และเมื่อมาทำธุรกิจ ก็ยังได้รับกำลังใจ จากลูกค้าต่างให้ข้อมูลและคำแนะนำเรา เหมือนเราเป็นลูกหลานทำธุรกิจแค่นี้ก็ดีใจแล้ว เหมือนพาญาติไปเที่ยว ซึ่ง ในแต่ละทริปจะรับลูกทัวร์ ไม่เกิน 28 คนหรือประมาณรถตู้ 2 คัน ส่วนใหญ่จะชอบซื้อของฝากกันเป็นจำนวนมาก ที่ผ่านมามีลูกค้าหลักร้อยรายแล้ว และยังมีลูกค้า เข้ามาใช้บริการซ้ำอีกเป็นจำนวนมาก"





ล่าสุดได้แตกไลน์ธุรกิจ กับโปรแกรมที่ชื่อว่า “ลูกหลานเฉพาะกิจ” เป็นบริการพาผู้สูงอายุ ไปทำธุระ ในช่วงที่ลูกหลานไม่ว่าง ภายใน 1 วัน เช่น การพาไปพบแพทย์ตามนัด พาไปหาญาติ โดยเดินทางไปรับถึงที่บ้าน และในช่วงแรกคุณโยชิ กับคุณอุ้ม จะให้บริการเอง เพื่อศึกษาความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง เพื่อนำมาปรับกับธุรกิจให้เหมาะสม ตรงตามความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด





“ผมมองว่าเรื่องการท่องเที่ยวสามารถต่อยอดเป็นธุรกิจอื่นๆ ได้ หลังจากที่เราทำธุรกิจนำเที่ยวกับกลุ่มผู้สูงอายุมาได้สักพักหนึ่ง ก็เห็นปัญหาหลายอย่างในกลุ่มผู้สูงวัย โดยเฉพาะการพาไปทำธุระในแต่ละวัน เช่น ไปหาหมอตามนัด ไปหาญาติ ไปซื้อของ ไปเที่ยวใกล้ๆ บ้าน ภายใน 1 วัน จึงเกิดไอเดียทำโปรแกรม ‘ลูกหลานเฉพาะกิจ’ ขึ้น เราเชื่อมั่นว่าจะทำได้ดี เพราะรู้จักและเข้าใจผู้สูงวัยจากการประสบการณ์การนำทัวร์กับลูกค้ากลุ่มนี้มาก่อน”







โดยวางแผน โปรแกรม ‘ลูกหลานเฉพาะกิจ’ ในอนาคตไว้ว่า หากให้บริการลูกค้าในกรุงเทพฯ ไประยะหนึ่ง จนกระทั่งเข้าที่ ปรับแก้ปัญหาได้ครบทุกจุด จะขยายไปตามหัวเมืองใหญ่ เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี เนื่องจากจังหวัดเหล่านี้จะอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย จึงถือเป็นโอกาสที่โปรแกรมลูกหลานเฉพาะกิจจะเติบโตได้ รวมถึงต่อไปจะขยายไปยังต่างประเทศ เน้นประเทศในเอเชียเป็นหลัก จากวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกัน คือ มีการปลูกฝังให้เด็กต้องดูแลผู้ใหญ่ จึงคาดว่าจะเป็นอีกตลาดที่น่าสนใจไม่น้อย






อย่างไรก็ตามล่าสุดตัวเลขผู้สูงอายุในกรุงเทพฯ มีประมาณ 1,020,000 คน ในไทยมีประมาณ 14 ล้านคน และในปี คศ.2020 ทั่วโลกจะมีผู้สูงอายุประมาณ 2,000 ล้านคน ซึ่งถือเป็นตลาดที่ใหญ่มาก และยังมีความต้องการธุรกิจที่เข้ามาช่วยตอบโจทย์เพิ่มความสะดวกสบาย ความสุข และยืดอายุให้กับกลุ่มคนเหล่านี้ได้






* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *





กำลังโหลดความคิดเห็น